ประจวบคีรีขันธ์-แก้ปัญหาวัดดังสร้างโบสถ์ 25 ล้าน ใช้ประกอบพิธีสงฆ์ไม่ได้

ภาพ-ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม

            วันที่ 11 มกราคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักศาสนาพุทธแห่งชาติได้มอบหมายให้นายโล้ไกร ใจมั่น สำนักงานศาสนาพุทธจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และนายจารึก แก้วแสงอ่อน สำนักศาสนาพุทธประจำจังหวัดชุมพรพร้อมร่วมประชุมแก้ไขปัญหากรณีวัดไชราช ตำบลไชยราช อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาจากการสร้างโบสถ์มาแล้ว 13 ปีแต่ยังไม่สามารถใช้ได้ติดปัญหาที่ดินกรณีชาวบ้าน ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชาวบ้าน ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ร้องเรียนผ่านหลายหน่วยงานใน 2 จังหวัด เพื่อเร่งรัดให้แก้ไขปัญหากรณี วัดเขาไชยราช ได้สร้างพระอุโบสถใช้งบประมาณกว่า 25 ล้านบาท สร้างเสร็จนานกว่า 13 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากไม่ได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา จึงไม่สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ เนื่องจากพื้นที่วัดตั้งอยู่ในเขต อ.ปะทิว แต่จุดที่สร้างโบสถ์ถูกขีดเส้นจากระบบ จีพีเอส. แบ่งแนวเขตในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย
        นายประมวล กล่าวว่า ได้เข้ากราบนมัสการพระครูสุนทรธรรมชัย เจ้าอาวาสวัดเขาไชยราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาลนาทั้ง 2 จังหวัดซึ่งได้รับมอบหมายจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้เร่งรัดแก้ไขปัญหา นายชัชวาล จิตภิรมย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) เขาไชยราช นายอุดม กิจเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.เขาไชยราช นายธวัชชัย พวงอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ไชยราช เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา เบื้องต้นจะต้องแจ้งให้สำนักงานที่ดิน หรือ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ รังวัดแนวเขตที่ชัดเจนร่วมกัน เนื่องจากพื้นที่วัดบางส่วนมีโฉนด แต่บางส่วนอาจจะอยู่ในพื้นที่ป่าไม้
         “ เจ้าอาวาสต้องการให้โบสถ์สามารถใช้ประโยชน์ได้ หลังจากชาวบ้านช่วยกันบริจาคงบเพื่อ และต้องการให้ประชาชนในหมู่บ้านไม่ต้องเดินทางไปวัดอื่น เพื่อให้มีข้อยุติโดยเร็วได้ทำเรื่องถึงประธานกรรมาธิการการปกครอง และคณะกรรมาธิการศาสนาฯ ของสภาผู้สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียนเชิญเจ้าคณะภาค อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ ชี้แจงปัญหาและแนวทางการปฎิบัติที่ชัดเจน มีแนวทางเพื่อใช้อำนาจสั่งการให้หลายหน่วยงานบูรณาการร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา หลังจากที่ผ่านมาปัญหาแนวเขตทับซ้อนพื้นที่ 2 จังหวัด ได้สร้างปัญหาให้ประชาชนที่บ้านบางเบิด ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย กับ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว ตั้งแต่ปี 2539 แต่กรมการปกครองไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วง “นายประมวล กล่าว