ประจวบคีรีขันธ์-ผวจ.สั่งปิดช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมาร์

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก)

                ผวจ.สั่งปิดช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมาร์ ป้องกันการลักลอบทำผิดกฎหมาย

                 เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 27 พ.ค.63 นายชนพหล ส่งเสริม นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบฯ พันเอกธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก นายบุญฤทธิ์ ลิ้มฉุ้น ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดประจวบฯ นายสง่า คลับคล้าย ผู้ใหญ่บ้านย่านซื่อ ได้ร่วมกันทำพิธีปิดช่องทางธรรมชาติแนวเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ ฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ไทย) และจังหวัดมะริด (พม่า) ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการกระทำผิดกฎหมายชายแดน อาทิเช่น การขนส่งลำเลียงยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมาย และแรงงานเถื่อนเข้ามาในประเทศ รวมถึงการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยส่งขายยังฝั่งประเทศเมียนมาร์ นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการป้องกันมิให้พม่าและผู้ที่ลักลอบข้ามแดนเป็นพาหะนำเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า2019(โควิด-19)เข้ามาในประเทศด้วย
                 โดยฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบฯ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน(อส.) ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่ตํารวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า(ตชด.14) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบฯ(ตม.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันขึงปิดลวดหนามระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร จำนวน 3 จุด บริเวณช่องทางธรรมชาติน้ำตกวังเป้า หมู่ 12 บ้านย่านซื่อ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
             นายชนพหล ส่งเสริม นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมาร์ มีขบวนการค้ายาเสพติดและขนของสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ และมีการนำรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากในประเทศไทย ส่งออกขายข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมาร์บ่อยครั้ง โดยมีกลุ่มบุคคลตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเข้ามาเก็บหาผลประโยชน์ อีกทั้งเพื่อเป็นการระงับยับยั้งไม่ให้โรคโควิด-19 จากเมียนมาร์เข้ามาในประเทศ ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบจึงได้มอบหมายให้ฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทางด้านความมั่นคงเข้าดำเนินการปิดช่องทางธรรมชาติทุกช่องทางที่มีการกระทำผิดกฎหมายบ่อยครั้ง โดยเริ่มต้นจากช่องทางธรรมชาติน้ำตกวังเป้าเป็นโมเดลจุดแรก

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/