ประจวบคีรีขันธ์-รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่สามอำเภอตรวจเยี่ยมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ

ประจวบคีรีขันธ์-รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่สามอำเภอตรวจเยี่ยมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่สามอำเภอตรวจเยี่ยมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ

                   วันที่ 17 มกราคม 2564 ผู้สื่อขาวรายงานว่า นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด เพื่อตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามข้อมูลความเป็นอยู่ของ บุคลากร นักเรียน และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อตามแนวทางการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข ปัญหาอุปสรรคในการทำงาน  สิ่งที่ต้องการการสนับสนุน และเยี่ยมเยียนราษฎรบ้านป่าหมาก สอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านป่าหมาก ปัญหาความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และช่วยซื้อภาชนะจักรสานของชาวบ้าน แจกเงินให้เด็กกะเหรี่ยงที่ใส่ชุดกะเหรี่ยง เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความตระหนักรักในการดำรงความเป็นเอกลักษณ์ของกะเหรี่ยง แต่งกายกะเหรี่ยง พูดภาษากะเหรี่ยง เพื่อรักษาอัตลักษณ์ของตนเองเอาไว้
                  โดยหมู่บ้านดังกล่าวขึ้นอยู่กับ ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายของ อำเภอสามร้อยยอดที่ติดชายแดนประเทศเมียนมา การเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากว่าเป็นทางลูกรัง มีสภาพที่ไม่ดี และเป็นทางที่ขึ้นเขาลงเขาเป็นระยะทางที่ไกล ต้องค่อย ๆ ไปอย่างช้า ๆ โดยมีระยะทางห่างจากตัวอำเภอสามร้อยยอด อ้อมไปทางเขื่อนปราณบุรี อำเภอปราณบุรี 70 ก.ม. ระยะทางจากจังหวัดประจวบฯ ประมาณ 115 กิโลเมตร (จากถนนเพชรเกษม ปากทางเข้าเขื่อนปราณบุรีประมาณ 55 ก.ม. เป็นถนนลูกรังประมาณ 40 ก.ม.) ไม่มีไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ทุกค่ายใช้ไม่ได้ โดยได้รับการต้อนรับจาก นายศรแดง โคสินธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลศาลาลัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.) ทหารจากชุดจงอางศึก ตำรวจตระเวนชายแดน   ตำรวจภูธร อสม. พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ของจุดตรวจให้ได้ทราบถึงการปฏิบัติ โดยผู้ใหญ่แจ้งว่าการปฏิบัติของจุดตรวจเป็นไปได้ดี และเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ตามมาตรการป้องกัน Covid19 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้มีนายพุฒิพงศ์ ปิ่นรารัยนนท์ ปลัดอำเภอสามร้อยยอด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด และ อส.อำเภอสามร้อยยอด นำลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้
                   จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก พบว่าโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 161 คน มีบุคลากร รวมทั้งสิ้น 10 คน โดยมี พ.ต.ต.พัฒนศักดิ์ พัฒนพงศ์ศา เป็นครูใหญ่ ซึ่งได้ให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลของโรงเรียนให้ทราบ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีการ ปลูกพืชผักที่ใช้สำหรับ การประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียน โดยมีแปลงผักสวนครัว บ่อปลา โรงเพาะเห็ด การเลี้ยงหมู การเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งนอกจากจะใช้ประกอบอาหารเลี้ยงให้นักเรียนได้แล้ว ยังนำไปขายเพื่อนำรายได้มาเข้ากองทุนของโรงเรียน เพื่อที่จะใช้ในการซื้ออุปกรณ์ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ มาเพาะพันธุ์และต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นต่อไป พร้อมทั้งมีการทำร้านกาแฟที่นำเอากาแฟจากชาวบ้านป่าหมาก มาแปรรูปขายที่ร้านกาแฟให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งทำเป็นกาแฟบดและกาแฟผงส่งออกไปขายยังพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้ชื่อ Coffee School พร้อมทั้งการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยส่งขายเช่นกัน โดยดาบตำรวจวิสุทธิ์ ปรางทอง เป็นคุณครูในโรงเรียน ตชด. แห่งนี้ ได้ให้ข้อมูลว่า ทางโรงเรียนมีการสอนกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม และเมื่อขายได้ ก็นำเงินที่ได้มาเข้าสหกรณ์และแบ่งบางส่วนให้นักเรียนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยทุกคนในโรงเรียนมีความรู้ในด้านการปลูกกาแฟ การแปรรูปกาแฟ สามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเด็กนักเรียนและครอบครัวได้
                  สำหรับชาวบ้านป่าหมาก มีอาชีพ ทำการเกษตรเป็นส่วนมาก เช่น ปลูกข้าวไร่ กาแฟ กล้วย มะละกอ ซึ่งเป็นอาชีพที่ทำกันมาแต่บรรพบุรุษ มีการเก็บน้ำผึ้งป่าขาย บ้านที่ไปเยี่ยมเยียนมีอาชีพทำเครื่องจักรสาน ผ้าทอแบบกะเหรี่ยง ขายให้นักท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่หมู่บ้านป่าหมากเป็นประจำ เพื่อมาดูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง มาชมธรรมชาติที่สวยงามแบบป่าเขา ธรรมชาติคล้ายภาคเหนือ ที่ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ และบางส่วนอยากไปสัมผัสเส้นทางที่ไปยากลำบากมาก ซึ่งบ้านป่าหมากกำลังเป็นหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติต้องการไปท่องเที่ยว

                  จากการรับฟังปัญหาของชาวบ้าน ทราบว่ามีปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดรับจะพูดคุยกับทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเพื่อแก้ไขปัญหา หาทางออกให้ต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!