ประจวบคีรีขันธ์-‘สุทิน-มาริษ’ลงพื้นที่ด่านสิงขรหารือพัฒนาเป็นด่านถาวร รองรับเศรษฐกิจ 2 ประเทศ

ประจวบคีรีขันธ์-‘สุทิน-มาริษ’ลงพื้นที่ด่านสิงขรหารือพัฒนาเป็นด่านถาวร รองรับเศรษฐกิจ 2 ประเทศ

ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร

                เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ที่ลานจอดอากาศยาน กองบิน 5 อำเภอเมืองประจวบฯ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังพลของหน่วยกำลังพลของกองทัพบกในพื้นที่ โดยมี นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ พ.อ.วีระชัย ศิระสากร รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ นาวาอากาศเอก พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ให้การต้อนรับ            

             จากนั้นทั้งหมดได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดผ่อนปรนพิเศษ ด่านสิงขร-มูด่อง อ.เมืองประจวบฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศ ไทยกับเมียนมา โดยมี พลโท ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ ให้การต้อนรับ เพื่อติดตามศักยภาพของด่านดังกล่าว พร้อมรับฟังความคิดเห็นและปัญหาจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน อาทิ หอการค้าจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารตลาดทะเลไทย และผู้ประกอบการอื่นๆ โดยชูการทูตเสริมสร้างประโยชน์ในมิติเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจการค้าพื้นที่ชายแดนให้สอดคล้องกับนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาล
                สำหรับด่านสิงขร-มูด่อง ถือเป็นด่านพรมแดนที่มีศักยภาพ และเป็นอีกทางเลือกในการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังเมียนมา ที่สามารถจะร่นระยะเวลา และค่าขนส่งสินค้าต่อไปยังจีนและมาเลเซียได้ นอกเหนือจากจุดผ่านแดนแม่สอด-เมียวดี ซึ่งจุดผ่อนปรนนี้ มีมูลค่าการค้าชายแดนเมื่อปี 2566 สูงเป็นอันดับ 3 รองจากด่านแม่สอด-เมียวดี และด่านพุน้ำร้อน-ทิกิ คือ จำนวนกว่า 37,864 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกหลักๆ ไปเมียนมา ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค พลาสติก อุปกรณ์ก่อสร้าง และผลไม้ แต่หลังจากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมา ทำให้การส่งออกสินค้ามีจำนวนลดลงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
              ทั้งนี้ นายมาริษและนายสุทินได้รับทราบถึงศักยภาพของธุรกิจอาหารทะเลจากนักงทุนไทย และกรณีที่ฝ่ายเมียนมามีความต้องการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ แต่ยังไม่มีกำลังการผลิต จึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับนักลงทุนชาวไทย นอกจากนี้ รัฐบาลได้รับข้อเสนอเรื่องการพัฒนาด่านสิงขรให้เป็นด่านถาวรต่อไป แต่จะต้องพูดคุยผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ และแสวงหาการยอมรับจากทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนชาวไทย และชาวเมียนมาต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!