ปราจีนบุรี-ทุกข์ชาวบ้าน..! พระปางนาคปรก-พื้นที่มูลค่ามากกว่า 50 ล้านถูกปล่อยรกร้าง-ทรุดโทรม

ปราจีนบุรี-ทุกข์ชาวบ้าน..! พระปางนาคปรก-พื้นที่มูลค่ามากกว่า 50 ล้านถูกปล่อยรกร้าง-ทรุดโทรม

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ณัฐนันท์/ฉลองรัตน์ ทองโบราณ

              ร้องทุกข์ชาวบ้าน ! ชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรีและคณะกรรมการชมรมฯ-ปปช. ลงพื้นที่ตรวจ พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ไทย ซึ่งตั้งอยู่บนวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ขนาดหน้าตักกว้าง14.9เมตร สูง34 เมตร ถูกปล่อยรกร้าง – องค์พระ-สิ่งของมูลค่ามหาศาลกว่า 50ล้านบาททรุดโทรม พร้อมฝากผ่านโลกโซเชี่ยล ให้ทุกหน่วยงานร่วมด้วยช่วยกันเพื่อทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดปราจีนบุรีทางการท่องเที่ยว -ศูนย์รวมจิตใจต่อไป

              เมื่อเวลา 21.00 น.วันนี้ 22 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีพบมีการโพสต์ – แชร์ภาพ พร้อมข้อความโดยผู้ใช้ชื่อนายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี เป็นภาพขณะที่นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรีและคณะกรรมการชมรมฯลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีขนาดหน้าตักกว้าง14.9เมตรสูง34 เมตร สภาพองค์พระชำรุดทรุดโทรมไม่มีการดูแล – บูรณะ ตลอดรวมถึงสถานที่โดยรอบและด้านล่างใต้องค์พระที่ก่อสร้างจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน รวมมากกว่า 50 ล้านบาท ทรุดโทรม ผุพังมองเห็นเด่นชัด
             และ พร้อมกันนี้ยังระบุว่า … นางสาวรวีวรรณ ยัญญจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ป้องกันการทุจริต สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับนายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี และคณะกรรมการชมรมฯลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีขนาดหน้าตักกว้าง 14.9 เมตรสูง 34 เมตร
             โดยพระพุทธรูปองค์นี้ได้สร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของส่วนราชการและพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีและพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกรียติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ(พระนามขณะนั้น)ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5รอบ 60 พรรษาในปี พ.ศ.2558 ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านระยะเวลามา 8 ปีแล้ว และ ปัจจุบันมีการปล่อยให้องค์พระและอาคารสถานที่รกร้างทรุดโทรมเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบดูแล และทางสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรีจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบสถานที่นี้ได้หาแนวทางและวิธีการในการเข้ามาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้องค์พระพุทธทวาราวดีศรีปราจีนได้เป็นที่เคารพกราบไหว้และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องปราจีนบุรีต่อไป
            ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ สัมภาษณ์นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้รับการร้องทุกข์จากชาวปราจีนบุรี ให้ช่วยติดตามดู องค์พระพุทธทวาราวดีศรีปราจีน เพื่อให้คงอยู่เป็นที่สักการะ เป็นแลนด์มาร์ค ที่ท่องเที่ยวของจังหวัดปราจีนบุรี จึงพร้อมด้วยสำนักงาน ปปช.ปราจีนบุรี – คณะกรรมการสตรอง พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ขึ้นไป-ติดตม พบสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวณนั้น เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของป่าไม้ แต่ภายหลังถูกขอใช้พื้นที่ และทางป่าไม้ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการดูแล พบว่าสภาพองค์พระปางนาคปรกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เสื่อมโทรม ด้านรอบนอกถูกปล่อยรกร้าง ด้านใต้องค์พระ สถานที่รกร้างพังชำรุดเสียหายเช่นกัน อาทิ ฟ้าเพดาน พื้น แอร์ต่าง ๆ มากกว่า 10เครื่องชำรุดเสียหาย  ทราบว่ามูลค่าในการก่อสร้างใช้เงินมากกว่า 50 ล้านบาท จึงเป็นปัญหาว่าต่อไปใครจะดูแล เป็นแลนด์มาร์ค – แดนธรรมมะที่พึ่งทางใจของชาวปราจีนบุรีได้ ซึ่งไม่ได้มาจับผิด หรือแจ้งกล่าวโทษผู้ใด แต้องการให้มาช่วยกัน นายณรงค์ชัยกล่าวในที่สุด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!