สมุทรปราการ-รวบแล้วเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดบีบคอเพื่อนร่วมชาติดับ

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

            จากกรณี นายหม่อง แง อายุ 36 ปี ชาวเมียนมาร์ ถูกนาย มอ จอ ตู อายุ 43 ปี ชาวเมียนมาร์ ทำร้ายร่างกายโดยชกต่อยและบีบคอจนสลบแน่นิ่งไปก่อนภรรยาและญาตินำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับภรรยา เหตุเกิดภายในห้องเช่า เลขที่ 129 หมู่ 7 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565
             ความคืบหน้าหลังจากที่ทางด้าน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ นาย มอ จอ ตู อายุ 43 ปี สัญชาติเมียนมาร์ พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาล จังหวัดสมุทรปราการ และศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับ นาย มอ จอ ตู ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ตามหมายจังศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 721/2565 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ฝ่ายสืบสวนจึงได้ออกหาเบาะแสจนกระทั่งไปตามจับกุมตัว นาย มอ จอ ตู ผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ย่านอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ขณะหลบหนีไปอยู่กับลูกสาวของภรรยา
              ล่าสุดวันนี้เวลา 13.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก. สภ.บางพลี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและกำลังตำรวจกว่า 10 นาย ร่วมกันคุมตัว นาย มอ จอ ตู (ผู้ต้องหา) มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุภายในห้องเช่า ชุมชนแสงจันทร์ หมู่ที่ 7 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกำลังตำรวจอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่คุมตัวชี้จุดและทำแผนจำนวน 4 ประกอบด้วย จุดแรกเป็นร้านขายของชำที่ผู้ต้องหารับเงินจาก นายหม่อง แง (ผู้ตาย) มาซื้อเบียร์และบุหรี่ก่อนจะไปดื่มด้วยกันแล้วก่อเหตุ จุดที่สองเป็นภายในห้องเช่าของเพื่อน ซึ่งเป็นห้องที่ผู้ต้องหาและผู้ตายชักชวนกันมาดื่มเบียร์ก่อนจะมีปากเสียง และลงมือก่อเหตุ โดยการใช้มือบีบคอผู้ตายจนสลบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนจุดที่ 3 เป็นห้องเช้าของผู้ตายหลังเกิดเหตุเพื่อนและภรรยาของผู้ตายได้พาร่างผู้ตายกลับมาที่ห้อง เพื่อนรอส่งโรงพยาบาล ส่วนจุดสุดท้ายเป็นจุดเส้นทางหลบหนีด้านหลังชุมชน
            พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ช่วงหลังมีการเปลี่ยนสถานที่ทำงานแต่ไม่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังตกงานอยู่ จึงไม่มีเงิน ที่ผ่านมาจะอาศัยมาหาเพื่อนคือผู้ตาย และมักชักชวนกันดื่มสุรา โดยจะให้ผู้ตายเป็นคนออกเงินให้มาตลอด จนวันเกิดเหตุผู้ตายได้พูดจาทำนองว่าให้ออกเงินแต่ฝ่ายเดียวทำให้เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกันจนมีการค้ำคอและบีบคอผู้ตายจนถึงแก่ความตาย โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และข้อหาตาม พรบ.คนเข้าเมือง ส่วนภรรยาพบว่ามีความผิดตาม พรบ.คนเข้าเมือง ด้วยเช่นกัน นำตัวทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมาย