ประจวบคีรีขันธ์​-กองทุนฟื้นฟู นำสมาชิกกดดัน ธอส.ซื้อบ้านที่ดินกลับคืนเข้าระบบ

ประจวบคีรีขันธ์​-กองทุนฟื้นฟู นำสมาชิกกดดัน ธอส.ซื้อบ้านที่ดินกลับคืนเข้าระบบ

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

กองทุนฟื้นฟูประจวบนำสมาชิกกดดัน ธอส.ซื้อบ้านที่ดินกลับคืนเข้าระบบช่วยเหลือตามสิทธิ์

          วันนี้ (13 สิงหาคม 2563) นายอเนก น้อยแสง ประธานองค์กรการเกษตรกลุ่มส่งเสริมอาชีพชาวประมง พร้อมด้วย นางปิ่นแก้ว แก้วสุกแท้ แกนนำกลุ่มสมาชิกจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.ประจวบฯ และสมาชิกเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) จังหวัดประจวบฯ รวมกว่า 100 คน เดินทางไปรวมตัวที่ด้านหน้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้ธนาคารฯปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังนำบ้านพร้อมโฉนดที่ดินเลขที่ 529 ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ ของนางลำเพย รอดพยุง ขายให้กับบุคคลภายนอกเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งที่เป็นที่ดินที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ และที่ผ่านมานางลำเพยได้รับสิทธิซื้อที่ดินคืนจากธนาคารฯตามมติ ครม. โดยกองทุนฟื้นฟู ธนาคารฯและนางลำเพย รับทราบแล้ว แต่นางลำเพยได้รับแจ้งจากผู้ครอบครอง 2 ราย ว่าจะขับไล่ออกจากที่ดินในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ดังนั้นการดำเนินการของธนาคารฯภายใต้การกำกับนโยบายของกระทรวงการคลัง จึงอาจเข้าข่ายละเมิดและฝ่าฝืนมติ ครม. ล่าสุดได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว
          จากปัญหาที่เกิดขึ้นทางกลุ่มสมาชิกกองทุนฯ ได้เสนอข้อเรียกร้อง 1.ให้ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืนมาให้กับนางรำเพย รอดพยุง และขายให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือตามสิทธิ์ต่อไป 2.ขอให้มีการเจรจากันทั้งหมด 4 ฝ่าย เพื่อการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย 1.ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 2.ท่านเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 3.ผู้มีอำนาจจากธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และ 4.ตัวแทนเกษตรกร และนางรำเพย รอดพยุง (ผู้เดือดร้อน)

          ด้านนายสุภาพ ผลพนม หนส.บน.เขตประจวบฯ เปิดเผยว่า กรณี ของนางรำเพย รอดพยุง ซึ่งเป็นลูกหนี้ของทางธนาคาร เมื่อปี พ.ศ.2538 และมีการชำระหนี้ได้เพียง 16 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ได้มีการผ่อนกับธนาคารเลย หรือมีการมาติดต่อขอประนอมหนี้แต่อย่างใด ซึ่งทางธนาคารก็ได้พยายามติดต่อ และยืดระยะเวลาเพื่อช่วยเหลือมาโดยตลอดจนครบกรอบเวลาที่กำหนด 9 ปี ตามที่กองทุนฟื้นฟูได้มีการ MOU ร่วมกันไว้ จึงจะสามารถขายทอดตลาดได้ ทางธนาคารจึงต้องประกาศขายทอดตลาดตามกรอบที่กำหนดมิฉะนั้นอายุความก็จะหมด รัฐก็จะเกิดความเสียหายเนื่องจากธนาคาร ธอส.เป็นธนาคารของรัฐ แต่ถึงประกาศขายไปแล้วธนาคารก็ยังต้องเก็บทรัพย์ไว้อีก 5 ปี เพื่อรอให้ลูกหนี้มาติดต่อขอซื้อคืน ซึ่งทางธนาคารได้ซื้อทรัพย์มาเมื่อปี พ.ศ.2543 และเก็บไว้รอลูกหนี้เป็นเวลาอีก 5 ปี แต่ลูกหนี้ก็ไม่สามารถติดต่อขอซื้อคืนได้รวมระยะเวลาเฉพาะที่ทางธนาคารซื้อทรัพย์มาไว้ประมาณ 20 ปี ซึ่งระยะเวลาล่วงเลยมานานมาก และทรัพย์เพิ่งจะขายให้กับบุคคลที่ 3 ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค.63 ที่ผ่านมา โดยระบบมันเกินกรอบที่กำหนด และได้ขายไปแล้วไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ใจจริงอยากจะบอกทางกองทุนว่าให้ไปช่วยเหลือลูกหนี้รายอื่นๆดีกว่า ซึ่งมีอีกจำนวนหลายรายที่เกินกรอบระยะเวลาที่กำหนด และกำลังจะถูกขายทอดตลาด เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก นายสุภาพ กล่าว..


สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!