เพชรบุรี-พิธีวางพวงมาลาเนื่องใน “วันรพี” ประจำปี 2563

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร

ศาลจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับหน่วยงานด้านกฎหมายประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน “วันรพี” ประจำปี 2563 ครบรอบ 100 ปีแห่งวันสิ้นพระชนม์

         เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ณ ลานพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ด้านหน้าอาคารศาลจังหวัดเพชรบุรี ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายคทาวุธ ตั้งมานะกิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานในงานวันรพี ประจำปี 2563 โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน และองค์กรด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี อาทิ ศาลจังหวัดเพชรบุรี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี ศาลปกครองจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเพชรบุรี ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ร่วมในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายทักษิณานุปทานและพิธีวางพวงมาลาหน้าพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ฯ
          พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นพระราชโอรส พระองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2417 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงศึกษาวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษจนรอบรู้เชี่ยวชาญ ในปลายปีพุทธศักราช 2428 ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสหราชอาณาจักร โดยทรงเข้าศึกษาชั้นมัธยม และทรงศึกษาวิชาการกฎหมายที่วิทยาลัยไคร์เชิช ในมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ทรงสอบไล่ได้ปริญญาตรีเกียรตินิยมทางกฎหมายในเวลา 3 ปี ในขณะนั้นทรงมีพระชันษาได้ 20 ปี นับว่าทรงพระเยาว์มากสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรี พระองค์มีพระประสงค์ที่จะศึกษาวิชากฎหมาย ชั้นเนติบัณฑิตต่อ แต่เนื่องจากความจำเป็นของประเทศชาติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสให้พระองค์เสด็จและให้รับราชการงานเมือง
          พระองค์ได้ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2439 ตลอดเวลา 14 ปี ที่ทรงดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ทรงดำเนินกิจการงานราชการของกระทรวงยุติธรรมด้วยความรู้และพระปรีชาสามารถ กับทั้งพระอุตสาหะเข้มแข็ง ยังผลให้งานราชการของกระทรวงยุติธรรมเจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงจัดให้มีการรวบรวมชำระสะสาง จัดวางบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ทันสมัย เพียงพอแก่ความต้องการของบ้านเมือง และสังคม ทรงบังคับใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้น ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี บังเกิดผลให้การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีทั้งปวงของศาลสถิตยุติธรรมดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และมีระเบียบเป็นมาตรฐานเดียวกัน ในปี พ.ศ.2440 ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้น เปิดสอนวิชากฎหมายเป็นแห่งแรก และได้ประทานพระเมตตาสอนวิชากฎหมายแก่นักเรียนด้วยพระองค์เอง ทรงรวบรวมและทรงแต่งตำรากฎหมายในลักษณะต่าง ๆ ไว้มากมาย จนเป็นรากฐานอันสำคัญสำหรับการศึกษาวิชานิติศาสตร์ขึ้นในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
          พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2463 ด้วยพระวัณโรคที่พระวักกะ (ไต) ขณะที่มีพระชันษาได้ 45 ปี 9 เดือน กับ 17 วัน นับถึงปีปัจจุบันได้ล่วงพ้นไปแล้ว 100 ปี และเนื่องด้วยวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน บรรดานักกฎหมายทั้งปวงได้เทิดทูนพระองค์เป็น “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” และได้ร่วมกันกำหนดวันนี้ว่าเป็น “วันรพี”

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/