ปราจีนบุรี-ไฟป่าทับลานบนมรดกโลกยังไหม้ต่อเนื่อง

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

ไฟป่าทับลานบนมรดกโลกยังไหม้แดงฉานท่วมป่าต่อเนื่อง สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยว “ผาเก็บตะวัน” เกรง นทท.กระทบฝุ่นควัน เตรียมระดม ฮ.ดับไฟก่อนไหม้ข้าม เข้าโคราช

          เมื่อเวลา 21.30 น.วันนี้ 29 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงาน ความคืบหน้าจากที่ได้เกิดไฟป่าขึ้น บริเวณป่าท้ายบ้านวังหิน วังมืด ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บนอุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลกทางธรรมชาติ พื้นที่มีป่าลานในธรรมชาตินับเป็นล้านๆต้นแห่งสุดท้ายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.63 เป็นบริเวณกว้าง ทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ร่วมกับ สถานีควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี เข้าควบคุมไฟที่เกิดขึ้นโดยทำแนวกันไฟ และเข้าดับไฟที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศค่อนข้างสูงชัน สภาพป่าเป็นป่าไผ่ สภาพอากาศแห้งแล้ง และลมแรง ทำให้การปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นให้ดับลงเป็นไปได้ยาก จนถึงวันที่ 20 ก.พ.63 เป็นระยะเวลากว่า 10 วัน จึงสามารถควบคุมได้ ทำให้สถานการณ์ไฟป่าสงบลง
          แต่ในวันที่ 21 ก.พ.63 ด้วยสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และลมที่พัดแรง ทำให้ไฟที่คุกกรุ่นอยู่ตามตอไม้ ติดไฟทำให้เกิดไฟป่าขึ้นอีกครั้ง จนถึงเวลาประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 22 ก.พ.63 สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยไฟที่เกิดขึ้นติดลามเข้ามาถึงบริเวณโดยรอบหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 16 (บ่อทอง) ต่อมาทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้มีคำสั่งให้ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ภายใน จากทุกฝ่ายฯ ทุกงานฯ อุปกรณ์ รถน้ำ เพื่อเข้าระงับเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้น ปัจจุบันสามารถควบคุมไฟบริเวณรอบหน่วยพิทักษ์ได้แล้ว แต่ยังเหลืออีกบริเวณกว้างที่ลามขึ้นทางทิศเหนือ ซึ่งพยายามเข้าควบคุม โดยแบ่งกำลังเพื่อทำแนวกันไฟดักด้านหน้าไฟ และอีกส่วนเข้าดับไฟที่เกิดขึ้นภายใน
          อุทยานแห่งชาติทับลาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ผู้นำชาวบ้าน หมู่ 5  หมู่ 8 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้นำจิตอาสา และ ชาวบ้านกว่า 50 คน เข้าร่วมกันดับไฟป่าบริเวณผาแดงหัวไร่ หมู่บ้านวังมืด วังใหม่ โดยเน้นทำแนวกันไฟบ้านวังหิน หมู่ 7 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีก่อนไฟลุกลามขึ้นไป อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา สถานการณ์ ไฟพื้นที่ ต.บุพราหมณ์ ควบคุมไว้ได้ ยังคงเหลือรอยต่อตำบลทุ่งโพธิ์พบไฟยังคงลุกลามอยู่
          วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่หมู่ 7 บ้านวังหิน สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว 90 % ไม่มีเปลวไฟลุกลาม เหลืออีก 10 % เป็นตอไม้ที่ยังมีควันไฟคุกรุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 16 (บ่อทอง) ติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ชุดเฉพาะปฏิบัติการดับไฟป่า ได้รับแจ้งเหตุเกิดไฟป่าขึ้นพร้อมกัน จำนวน 2 ชุด จึงได้แบ่งชุดปฏิบัติการฯ เป็น 2 ชุด ดังนี้ ปฏิบัติการณ์ไฟป่าในพื้นที่หมู่ 1 บ้านทับลาน บริเวณท้ายหมู่ทับลาน สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คงเหลือเปลวไฟบางจุด พบพื้นที่เสียหายประมาณ 17-18 ไร่เศษ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและยังปฏิบัติงานในพื้นที่ นั้น
          นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า “ การดับไฟไหม้ป่าทับลานมาถึงช่วงท้ายแล้ว ก่อนหน้ามีไฟไหม้ 7 จุด เราสามารถควบคุมเมื่อวาน 5 จุด เหลือ 2 จุด ที่ยากที่สุดในขณะนี้
วันนี้ (29 ก.พ.63) ทีมงานดับไฟป่า ลงมาจากจุดที่6คือผาเม่น ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี เป็นจุดสุดท้าย พื้นที่เขาสูงชันป่าชันเขาพูหีบต่อเนื่องบ้านวังใหม่-วังหิน อยู่กลางภูเขา เนื่องจากเป็นไฟลามเลียตามพื้น เชื้อเพลิงมาก ไหล่เขาสูงชัน ถัดหมู่บ้านไปเป็นภูเขาเล็ก ๆ สลับซับซ้อนกัน การส่ง จนท.ไปดับเป็นอันตราย จึงพยายามทำแนวกัน เวลาเกิดไฟมีลมพัดหวน โหมทำให้ไฟข้ามแนวตลอด
          ท้ายที่สุด พื้นที่บริเวณนี้จะเกิดไฟไหม้ป่าทุกปี ปีนี้เว้นระยะมานาน แต่เราพิจารณาไม่คิดให้ลามต่อไป เราพิจารณาสุขภาพราษฎรแม้ไม่รุนแรง เกิดฝุ่นควันไฟตลบอบอวล เรายกระดับกันไฟให้มากที่สุด ต้องตั้งกองอำนวยการร่วมเฉพาะกิจ กรมอุทยานแห่งชาติขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ลงดับให้ได้ไวที่สุด ลดปริมาณฝุ่นควันเพื่อสุขภาพเจ้าหน้าที่และราษฎร ขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดปราจีนบุรีต่อไป
ณ ปัจจุบันเริ่มจากวันนี้ (29 ก.พ.63) กลุ่มควันฟุ้งไปแหล่งท่องเที่ยวผาเก็บตะวัน ให้ นทท.มาพัก จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และโรคระบาด พิจารณา ปิดแหล่งท่องเที่ยว “ผาเก็บตะวัน” ในวันนี้ ( 29 ก.พ. – 6 มี.ค.63 ) แล้วจะเปิดเป็นปกติ”นายประวัติศาสตร์กล่าว
         ด้านนายประเทือง ปะทุ อายุ 60 ปี พร้อมด้วยนางประทวน ปะทุ อายุ 53 ปี ภรรยา ชาวบ้านหมู่ 8 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ได้ขับรถ จยย.มากลางดึก มาเฝ้าไร่มันสำปะหลัง เนื่องจากบนภูเขาทางบ้านเรียกประตู 1 ประตู 5 ได้ลุกไหม้เป็นทางยาว ไฟลุกท่วมบนภูเขาตลอดด้านบนติดกับไร่คีรีล้อม เป็นทางยาวนับ 10 กม.เนื่องจากเกรงไฟป่าจะลุกลามเข้าไร่ตนเองจะได้ช่วยกันขนข้าวของออกมาได้ทัน โดยไฟได้ดับไปครั้งหนึ่งก่อนหน้า และลุกโหมขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านร่วมกับป่าไม้ได้ช่วยกันดับไฟ จนชาวบ้านหลายๆคนเป็นลม ”นายประเทือง กล่าว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/