อยุธยา – รองอธิบดี ปภ.ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งดูการเตรียมความพร้อม

ภาพ / ข่าว นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์

        รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งดูการเตรียมความพร้อม ของ ปภ.จังหวัด และปภ.เขต

          เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2565 นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอเสนา โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา พ.ต.อ.ธีทัต สีด้รักษ์ ผกก.สภ.เสนา ปลัดอำเภอ กำนัน ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ
โดยจุดแรกนายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตรวจสถานการณ์น้ำ บ้านป้าสำรวย ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา (ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่น้ำเข้าท่วม) พร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับครอบครัว ป้าสำรวย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อน ในเบื้องต้น และตรวจดูสถานการณ์น้ำบริเวณ ม.5 ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาวัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี เครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

           นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับการแจ้งเตือนจากกรมชลประทานเรื่องการระบายน้ำ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำ ใต้เขื่อนเจ้าพระยา จึงได้ลงพื้นที่ ดูการเตรียมความพร้อม ของ ปภ.จังหวัด และปภ.เขต ว่า ได้มีการสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือ ในการเตรียมความพร้อม ในการรับมือสถานการณ์น้ำอย่างไรบ้าง ซึ่งก็พบว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้ง เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน รถประกอบอาหาร รวมถึง รถอพยพ กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ส่วนทาง ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี ก็คอยสนับสนุน เครื่องไม้เครื่องมือ ในกรณีที่มีการร้องขอ เพื่อรองรับผู้ประสบภัย จากการลงพื้นที่ พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 4 อำเภอ 15 ตำบล 1,300 กว่าหมู่บ้าน ซึ่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ติดริมแม่น้ำ และประชาชนส่วนใหญ่ยังมีขวัญและกำลังใจที่ดี ซึ่งทาง ปภ.จะคอยติดตามสอบถาม อย่างต่อเนื่อง หากพบว่าประชาชนได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อ ผ่าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ทันที