อยุธยา-สร้างเมืองสีเขียว แหล่งผลิตอาหารปลอดภัย

ภาพ/ข่าว: นราเอก ตันศิริ , นพดล บำเพ็ญสัตย์

                   ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดโครงการ สร้างเมืองสีเขียว แหล่งผลิตอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตเกษตร เพื่อปลูกต้นไม้ในพื้นที่ตำบลทับน้ำและตำบลบ้านม้า 150,000 ต้น ภายใน 5 ปี

                        เมื่อเวลา 10:00 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้ขยายพันธุ์พืชและธนาคารต้นไม้ อบต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสร้างเมืองสีเขียว โดยมี นายกฤตภพ เฉื่อยฉ่ำ นายก อบต.ทับน้ำ ร.ต.ต.หญิงสายสุนี ยมานันท์ นายอำเภอบางปะหัน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ระดับท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร และประชาชน เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
                     นายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการสร้างเมืองสีเขียว เพื่อพัฒนาพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลทับน้ำ ภายใต้การดำเนินการ “สร้างเมืองสีเขียว แหล่งผลิตอาหารปลอดภัย และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตเกษตร” ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้มีการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ตำบลทับน้ำและตำบลบ้านม้า จำนวน 1,500 ครัวเรือน ครัวเรือนละ 100 ต้น รวมทั้งสิ้น 150,000 ต้น ภายในระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ ขณะนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ได้มีการจัดตั้งศูนย์ผลิตกล้าไม้และพันธุ์ไม้พร้อมเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องการปลูกป่าแก่ประชาชน ดำเนินการผลิตพันธุ์ไม้ ได้แก่พะยุง มะค่าโมง ประดู่ป่า สาธร มะเกลือ มะค่าแต้ มะฮอกกานี กัลปพฤกษ์ ไม้แดง ชิงชัน ยางนา ตะแบก ต้นรัง สำรอง อินทนิล มะขามเฒ่า ทิ้งถ่อน สมอไทย และเสลา ซึ่งเพียงพอต่อการแจกจ่ายให้ประชาชนในรอบการปลูกปีงบประมาณ 2563 นี้ อันถือเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชนในพื้นที่ และเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดำรงชีวิตให้เกิดการป้องกัน บรรเทา แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และลดสาเหตุของการสร้างสภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ตำบลทับน้ำ และตำบลบ้านม้าเป็นเมืองสีเขียวของต้นไม้และเสริมสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสนับสนุนและดำเนินการอย่างต่อเนื่องร่วมกับชุมชน โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ตำบลทับน้ำและตำบลบ้านม้า เป็นพื้นที่นำร่องในการสร้างเมืองสีเขียว ต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/