ปราจีนบุรี-อึ้ง..!! ผึ้งหลวงทำรังครบทั้ง 7 เศียรพญานาค หลวงพ่อทวารวดี พระปางนาคปรกใหญ่สุดในไทย

ปราจีนบุรี-อึ้ง..!! ผึ้งหลวงทำรังครบทั้ง 7 เศียรพญานาค หลวงพ่อทวารวดี พระปางนาคปรกใหญ่สุดในไทย

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

                พบผึ้งหลวงทำรังยาวต่อเนื่องตลอด 8 ปี เต็ม ๆ ไม่ไปไหน ครบทั้งเศียรของพญานาค ครบ 7 เศียร และ ที่ใต้รักแร้ซ้าย-ขวา 2 ฝั่ง ของหลวงพ่อพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย บนวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ใกล้หวยออก งวดนี้ตีเลขเด็ด ตามจำนวนรังคือ 7 กับ 2 หรือ 72 โดยก่อนหน้า ทีม STONG- จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรีพร้อม ป.ป.ช. ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตามคำร้องทุกข์ ว่า พบองค์พระ – สถานที่ก่อสร้างจากงบบริจาคกว่า 50 ล้านบาท ถูกปล่อยรกร้าง- ชำรุดทรุดโทรม ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนฯยืนยันเร่งของบประมาณดำเนินการ-พร้อมเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยด่วน พัฒนา-ปรับปรุง ให้เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นพุทธอุทยานโลก แลนด์มาร์คปราจีนฯ-แหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืนต่อไป ระบุอุปสรรคสะดุด ก่อนหน้ามาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาได้ประชุมเพื่อขับเคลื่อนมาก่อนหน้านี้แล้ว วันที่ 1 -2 มี.ค.นี้นิมนต์เจ้าคุณธงชัย-พระสงฆ์ 200 รูป เจริญพระพุทธมนต์
               วันนี้ 25 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัด และคณะกรรมการชมรมฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีขนาดหน้าตักกว้าง14.9เมตรสูง34 เมตร ก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนชาวบ้าน พบสภาพองค์พระชำรุดทรุดโทรมไม่มีการดูแล – บูรณะ ตลอดรวมถึงสถานที่โดยรอบ และด้านล่างใต้องค์พระที่ก่อสร้างจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน รวมมากกว่า 50 ล้านบาท จากเงินบริจาคชำรุดทรุดโทรม ผุพังเห็นเด่นชัด
              จึงพร้อมกับนางสาวรวีวรรณ ยัญญจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ป้องกันการทุจริต สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และ ทีมคณะกรรมการชมรมฯ ลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์ สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยพระพุทธรูปองค์นี้ได้สร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของส่วนราชการและพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีและพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกรียติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ(พระนามขณะนั้น)ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5รอบ 60 พรรษาในปี พ.ศ.2558 ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านระยะเวลามา 8 ปีก่อนนี้ และ ปัจจุบัน มีการปล่อยให้องค์พระและอาคารสถานที่รกร้างทรุดโทรมเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบดูแล
                ผู้สื่อข่าวได้พบนายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมทีมงาน กล่าวว่า จากที่ทีมSTONG ลงพื้นที่ พบว่าสภาพองค์พระปางนาคปรกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เสื่อมโทรม ด้านรอบนอกถูกปล่อยรกร้าง ด้านใต้องค์พระ สถานที่รกร้างพังชำรุดเสียหายเช่นกัน อาทิ ฟ้าเพดานชำรุดทั้งหมด พื้นกระเบื้อง แอร์ต่าง ๆ มากกว่า 10 เครื่อง ชำรุดเสียหาย มูลค่าในการก่อสร้างใช้เงินในขณะนั้นมากกว่า 50 ล้านบาท จึงเป็นปัญหาว่า ต่อไปใครจะดูแล ให้เป็นแลนด์มาร์ค – แดนธรรมมะ ที่พึ่งทางใจของชาวปราจีนบุรีได้ ซึ่งไม่ได้มาจับผิด หรือแจ้งกล่าวโทษผู้ใด แต่ต้องการให้มาช่วยกัน ทีมงาน STONG ลงไปได้พบ พระปางนาคปรกและได้กราบไหว้สักการะ พบว่าบริเวณองค์พระนั้นทรุดโทรมมาก ที่ฐานพระ พื้นล่าง ใต้ห้องโถงด้านล่าง มีน้ำขังมีตะไคร่น้ำ น้ำที่ซึมลงมาไม่สามารถทำกิจกรรมได้ มีศาลารายโดยรอบพักผ่อนรกร้าง มีห้องน้ำที่ไม่สามารถใช้การได้เลย มีขยะ และให้ข้อสังเกตมี ถุงยางอนามัย เป็นแหล่งที่มั่วสุม จนอาจไม่สามารถให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะได้ เพาะรกร้างเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกันและ ในพื้นที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย อาทิ วัดหลวงพ่อเคนเกจิดังของปราจีนบุรี ,น้ำตกเขาอีโต้ อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ลานกางเต้นท์ ผาหินซ้อน เนินพิศวง เป็นสนามที่นักปั่นจักรยานเสือภูเขานิยมมาออกกำลังกายอันดับต้น ๆ เราได้เข้าไปติดตามดูแล อยากให้เป็นแลนด์มาร์คของชาวปราจีนบุรี อยากเรียนผ่านทางสื่ออยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้เข้ามาดูแล งบประมาณการก่อสร้างในขณะนั้นเป็นเงินบริจาค ประมาณ 50 ล้าน แต่ต้องยอมรับว่ามูลค่าตรงนั้นมันมีมา 8 ปีแล้ว และซึ่ง ปัจจุบันน่าจะประมาณ 100 ล้านบาท ได้รายงานให้ ปปช.ปราจีนบุรีทราบ เพื่อนำเสนอต่อไป นายณรงค์ชัยกล่าว
               ต่อมา ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ พบพื้นที่รอบริเวณรกร้างว่างเปล่า และทรุดโทรม ทั้งศาลารายรอบ ๆ ห้องน้ำ แต่ด้านใต้ฐานองค์พระปิดล็อคกุญแจไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ต้นหญ้ารอบ ๆ หลายแห่งมีการแผ้วถางบ้างแล้ว พบมีนักปั่นจักรยาน นักท่องเที่ยวบางส่วนมาปั่นจักรยานมาพักผ่อน พบว่าที่ใต้คางของพญานาคทั้ง 7 เศียรที่แผ่พังพานปกคลุมองค์พระนั้น พบว่ามีผึ้งหลวงทำรังยาวต่อเนื่องตลอด 8 ปีเต็ม ๆ ไม่ไปไหน ครบทั้งเศียรของพญานาค ครบ 7 เศียร ของหลวงพ่อพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และที่ด้านใต้รักแร้ทั้ง 2ซ้าย –ขวา ครบ 2ข้าง โดยผึ้งหลวงดังกล่าวนี้ ทำรังยาวต่อเนื่องตลอด 8ปีเต็ม ๆ ไม่ไปไหน ตั้งแต่ปี2558 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ที่ในอดีตผู้สื่อข่าวหลายสำนักได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว และนอกจากนี้ยังพบผึ้งหลวงทำรัง ที่ใต้รักแร้ซ้าย ขวาอีกด้วย และในวันใกล้หวยออกมักมีผู้คนมานับรังผึ้ง – ตีเลขเด็ดกันด้วยโดยงวดนี้ตีเลขเด็ด ตามจำนวนรังคือ 7 กับ 2 หรือ 72
               ด้าน นายรณณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาในส่วนของ สถานที่ตั้ง – องค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ทางจังหวัดปราจีนบุรี ได้ร่วมกันจัดทำมาตั้งแต่ต้น และ ได้ร่วมกันกับหลายกระทรวงขับเคลื่อนเป็นพุทธอุทยานโลก ก่อนหน้านี้ แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ได้มีการทิ้งร้าง สักพัก แต่ ได้พยามให้ฟื้นคืนสภาพขึ้น โดยตนเอง ได้ไปดูมาหลายรอบ พร้อมเริ่มตัดหญ้า การที่จะให้ความปลอดภัยกับคนที่มาท่องเที่ยว มาไหว้นมัสการ ซึ่งจังหวัดปราจีนบุรีจะทิ้งไม่ได้ ต้องทำให้มีชีวิต โดยได้นัดประชุมกันก่อนหน้านี้ มา 2 -3 ครั้งแล้ว เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้าร่วมกันบูรณาการ ให้ยั่งยืนต่อไป เป็นศูนย์รวมจิตใจทางพระพุทธศาสนา – แลนด์มาร์ค แหล่งท่องเที่ยวของ จ.ปราจีนบุรี ให้พัฒนายั่งยืน ต่อไป การที่ขับเคลื่อนส่วนนี้ ในวันที่ 1 -2 มี.ค.66 นี้ได้นิมนต์ เจ้าคุณธงชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์ รวม 200 รูป มาเจริญพุทธมนต์ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่จังหวัดปราจีนบุรี และชาวไทยทั่วประเทศ
               สำหรับในช่วงต่อๆไปก็จะมีการจัดกิจกรรม อื่น ๆต่อเนื่องส่งเสริม นอกจากกิจกรรมทางศาสนา อาทิ กิจกรรมการวิ่ง -เดิน ใช้องค์พระใหญ่เป็นหลัก แต่ในช่วงเดือนวันมาฆบูชานี้ อาจจะไม่ทันนิมนต์ให้พระสงฆ์ มาปฏิบัติธรรม แต่ช่วงวันวิสาขะบูชา จะได้นิมนต์ พระมาปฏิบัติธรรม ขอ เชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรี ได้มาช่วยกันขับเคลื่อนนำเอาสิ่งที่ดีมีคุณค่าที่ เราเคยมาร่วมกันบริจาคทรัพย์มา องค์พระใหญ่ถือว่า เป็นจุดศูนย์รวมของชาวจังหวัดปราจีนบุรี ทางจังหวัด อีกหลายหน่วยงาน ทั้งภาคเอกชน และภาคประชาชนมา ช่วยกันขับเคลื่อน แต่ ตอนนี้เป็นพื้นที่ของป่าไม้ เนื่องจากยังไม่มีใครเข้าไป ดูแลกันโดยตรง จะได้มอบให้กับทางสำนักงานจังหวัดฯ ใน ไปบูรณาการเบื้องต้น ไปทำความสะอาด เรียบร้อยกันก่อน นายรณณรงค์ กล่าว
                 ด้าน นายศิริชัย หรือ แจ๋ม กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อน ๆ มาขี่รถจักรยานปั่นออกกำลังกาย-ท่องเที่ยว มีทั้งนักท่องเที่ยว และ นักปั่นจักรยาน โดยเฉพาะเสือภูเขา ที่สูง – ปั่นแล้วได้กำลังเร้าใจ ปั่นขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ถึง องค์พระใหญ่ กว่า 10 กม. อยากให้มีการบูรณะห้องน้ำ เพื่อคนมาออกกำลังกาย –ท่องเที่ยว ได้ใช้ประโยชน์ นายศิริชัย หรือ แจ๋ม กล่าวในที่สุด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!