กาญจนบุรี-คุมเข้ม จัดระเบียบความมั่นคงชายแดน ติดป้ายและจัดระเบียบห้ามใช้ 3 เส้นทางชายแดนบ้องตี้ ไทรโยคโดยเด็ดขาด

ภาพ-ข่าว:ต๊ะ เมืองกาญจน์

              ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ กาญจนบุรีคุมเข้ม จัดระเบียบความมั่นคงชายแดน ติดป้ายและจัดระเบียบห้ามใช้ 3 เส้นทางชายแดนบ้องตี้ ไทรโยคโดยเด็ดขาด จัดระเบียบเส้นทางความมั่นคงชายแดน KNLA.เร่งเก็บกู้กับระเบิดสันแดนห้วยโมงฝั่งเมียนมา

               ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เพจสำนักข่าวท้องถิ่นกาญจน์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการจัดระเบียบถนนชายแดนเพื่อความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมีข้อความว่า เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2566 กองกำลังสุรสีห์ โดย ฉก.ลาดหญ้า/ตชด.136/สภ.ไทรโยคและฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกันติดตั้งป้ายห้ามนักท่องเที่ยวใช้เส้นทาง 3 เส้นทางเพื่อความปลอดภัย โดยห้ามใช้เส้นทางโดยเด็ดขาด ประกอบด้วย 1.เส้นทางหุบเย็น 2.เส้นทางช้างสามหลุม และ 3.เส้นทางขึ้นเขาปลาน้อย

              ส่วนอีกด้านบริเวณพื้นที่สันแดนช่องทางธรรมชาติ บ้านห้วยโมง@เมียนมา กกล.ทหาร ร้อย1 พัน 10 พล.น 4 KNLA กำลังกู้และทำลายระเบิด ที่กลุ่มก่อการร้ายได้วางกับระเบิดเพื่อดักทำร้ายกองกำลังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งกับระเบิดถูกพบโดยชาวบ้านที่ใช้เส้นทาง จึงแจ้งทาง KNLA. ต่อมา KNLA.จึงส่งทหารชุดเก็บกู้ระเบิดเข้าทำการเก็บกู้ เบื้องต้นทำการเก็บกู้พบกับระเบิด 10 จุดตามเส้นทางและสันแดนเขตเมียนมา เก็บกู้ไปแล้ว
             โดยสาเหตุที่มีการจัดระเบียบถนนชายแดนด้านตำบลบ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ เที่ยงวัน ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง กกล.กะเหรี่ยง พล.น.4 KNLA. กับ กกล.กอทูเล อาร์มี่ Kaw Thoo Lei Army. (KTLA.) ของ พล.จ.แอกวี หรือ กอราโพ ผบ.พล ซะกะชอ พื้นที่ห่างจากชายแดนไทยด้านอำเภอไทรโยค จ.กาญนนบุรี ประมาณ 1 กม. โดยการสู้รบในชายแดนประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดนพื้นที่รับผิดชอบของ ทหารไทย ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จำนวน 2 จุด ดังนี้ จุดแรกมีการปะทะสู้รบบ้านโรงเลื่อยเก่า ใกล้ชายแดนไทย ช่องทางห้วยโมง ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จุดที่ 2 มีการสู้รบในพื้นที่ชายแดนเมียนมาบริเวณ บ้านช้างเผือก หรือ เซนผิวได อ.เมตตา จ.ทวาย บริเวณห่างจากช่องทางห้วยโมงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 7.5 กม.
ซึ่งเหตุที่เกิดการใช้กำลังสู้รบในครั้งนี้ เป็นเรื่องของความขัดแย้งภายในของชนกลุ่มน้อยเกี่ยวกับพื้นที่ปกครองทับซ้อน จึงมีการใช้กำลังในการผลักดันให้อีกฝ่ายหนึ่งออกไปจากเขตปกครองของอีกกลุ่มเก่าที่ปกครองพื้นที่มาแต่เดิม

              ส่วนผลการสู้รบไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนประเทศไทย ไม่มีชาวบ้านหลบหนีภัยการสู้รบขึ้นมาบริเวณชายแดนประเทศไทย แต่ก็ไม่ประมาทยังคงตรวจสอบให้แน่ชัดต่อไป เพราะพวกนำพาต่างด้าวอาจใช้โอกาสนี้ขนแรงงานก็เป็นได้