นครปฐม-ประชุม..ล่ม..!! ชาวบ้านโวยถอดถอน ปธ.และ ผจก.นิติบุคคลการเคหะฯ

นครปฐม-ประชุม..ล่ม..!! ชาวบ้านโวยถอดถอน ปธ.และ ผจก.นิติบุคคลการเคหะฯ

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดนครปฐม

ชาวบ้านโครงการอาคารชุดเคหะชุมชนนครปฐม โวยคณะกรรมการไม่โปร่งใส ขอถอดถอน ประธานฯและผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดเคหะชุมชนฯ ออกจากตำแหน่ง ขณะเปิดการประชุมวิสามัญประจำปี ทำให้การประชุมไม่สามารถดำเนินต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ต้องเข้ามาดูแลความสงบ ทำให้การประชุมล่มกลางคัน
       เมื่อเวลา 09.20 น.วันนี้ (9 สิงหาคม 2563) บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ อาคาร 3 การเคหะชุมชนนครปฐม ตำบลท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดเคหะชุมชนนครปฐม ซึ่งมี นางสาวบุญยวีร์ เหนือคูเมือง เป็นผู้จัดการ และมีนางชนิดา เพชรทองคำ เป็นประธานฯในการดำเนินการประชุม และมีผู้อยู่อาศัยภายในโครงการอาคารชุดฯที่เป็นเจ้าของร่วมมีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมจำนวนหนึ่ง ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ทางคณะกรรมการได้มีการแจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี และเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร มาร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยในระหว่างการประชุมด้วย
         หลังจากที่คณะกรรมการฯมีการเปิดประชุม ได้มีชาวบ้านผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนางชลลดา ประดิษฐ์ค่าย ได้ยกมือแสดงความเห็นให้ถอดถอนประธานฯและผู้จัดการฯซึ่งเป็นประธานในการประชุมออกจากตำแหน่ง โดยชี้แจงว่าบุคคลทั้งสองเป็นผู้ที่ไม่ได้รับการดำรงตำแหน่งด้วยความโปร่งใส และอยู่ระหว่างการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีนำเลขบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองกับพวกรวม 2 คน ในขณะที่เป็นคณะกรรมการฯก่อนหน้านี้ ไปใช้อ้างอิงประกอบการจดทะเบียนเป็นคณะกรรมการนิติบุคคลฯที่สำนักงานที่ดินฯโดยที่ตนเองกับพวกมิได้ยินยอม
          นอกจากนี้ยังมีนายถาวร คล้ายทวน พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมประชุม ลุกขึ้นขอยื่นถอดถอนประธานฯกับผู้จัดการฯทั้งสองคนด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมพากันยกมือสนับสนุน ทำให้การประชุมไม่สามารถดำเนินการต่อได้ โดยทางนางชนิดา  เพชรทองคำ ได้พยายามพูดขอให้การประชุมดำเนินต่อไปก่อนแล้งค่อยคุยเรื่องนี้ในช่วงท้าย แต่ทางชาวบ้านไม่ยอม ต้องการให้คณะกรรมการชี้แจงเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายตามเอกสารที่มีการนำมาแจกจ่ายในที่ประชุม แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงเกิดการโต้ถียงกันระหว่างสองฝ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าห้าที่สารวัตรทหารต้องเข้ามาระงับเพื่อป้องกันมิให้เกิดการทะเลาะกัน จนในที่สุดการประชุมต้องถูกเลื่อนออกไป โดยนัดหมายไปอีก 15 วันข้างหน้า
        นายถาวร คล้ายทวน บอกว่า การประชุมครั้งนี้ตนและชาวบ้านอยากขอให้เกิดความโปร่งใส ในการบริหารงานของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดฯ โดยการขอให้มีการถอดถอนประธานและผู้จัดการนิติบุคคลฯทั้งสองคนออกจากการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากเหตุว่าบุคคลทั้งสองนี้ยังอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่มีความชัดเจนในการทำเอกสารและบัญชีการเงิน ไม่มีผู้ตรวจสอบบัญชี ตนและชาวบ้านเกรงว่าหากปล่อยให้บริหารงานต่อไปจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อคนในชุมชน จึงอยากให้มีการโหวตคะแนนเสียงจากเจ้าของร่วมในการประชุมฯครั้งนี้มีมติถอดถอนบุคคลทั้งสองออกจากตำแหน่ง แล้วให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมารักษาการชั่วคราว จนกว่าคดีที่ดำเนินการอยู่นั้นจะสิ้นสุด
          นางชลลดา ประดิษฐ์ค่าย บอกว่า ตนเป็นผู้เสียหายโดยตรงในการที่ถูกนางชนิดาและนางสาวบุญยวีร์ นำเลขประจำตัวบัตรประชาชน 13 หลัก ของตนกับนายสมพงษ์ ไปแอบจดทะเบียนคณะกรรมการนิติบุคคล โดยที่ตนกับนายสมพงษ์ มิได้ยินยอมและไม่ได้มอบสำเนาบัตรประชาชนให้ไปแต่อย่างใด แต่ถูกบุคคลทั้งสองนำเลขประจำตัว 13 หลัก ของตน ไปใช้ในการประกอบการจดทะเบียนคณะกรรมการนิติบุคคลที่สำนักงานที่ดิน โดยที่ตนไม่ได้อนุญาตหรือยินยอมให้ไป ซึ่งตนได้นำความเข้าแจ้งความในคดีอาญาไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
          ด้านประธานกรรรมการนิติบุคคลอาคารชุดเคหะนครปฐม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีของนางชลลดา นั้น ตนไม่ได้เอาเอกสารของเขามาใช้ แต่เอาเลขประจำตัวประชาชน มาจากการที่เขาลงทะเบียนเข้าประชุมใหญ่ ตามมติที่ประชุมการเป็นกรรมการไปยื่นที่สำนักงานที่ดินเพื่อทำการจดทะเบียนภายใน 30 วัน ซึ่งตนได้แจ้งทางสำนักงานที่ดินแล้วว่า เขาไม่ได้ให้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาทำได้หรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานที่ดินมีการสอบถามกันแล้วว่าแค่มีเลข 13 หลักก็สามารถจดทะเบียนได้ แต่เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้วอยู่ๆก็มาเล่นแง่ไปแจ้งความว่าเขาไม่ยินยอมให้ใช้เอกสาร แต่ทั้งนี้การจะไม่ยินยอม จะต้องไม่ยินยอมในที่ประชุมใหญ่เท่านั้น ไม่ใช่ไม่ยินยอมนอกรอบ เพราะตอนประชุมใหญ่เขาก็ยินยอมเป็นกรรมการแล้ว
          สำหรับการประชุมวันนี้ ตนรู้อยู่แล้วว่ามันต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ การประชุมล่มแน่นอน ตนจึงได้เตรียมวางแผนรับสถานการณ์ไว้แล้ว และเรื่องการที่เขาจะมาขอถอดถอนเราขอสู้แน่นอนเพราะคดีที่เขานำมาอ้างเป็นเรื่องที่ศาลได้ตัดสินแล้วว่าเราไม่ผิดและสำนักงานที่ดินจดทะเบียนให้เราก็เป็นไปตามคำสั่งศาล

นายภูวภัท ชยะกุลภักดี ทนายความ บอกว่า ในเรื่องข้อพิพาทเรื่องการนำเลขบัตรประจำตัวประชาชนของนางชลลดา ใช้ในการจดทะเบียนนิติบุคคลฯนั้น ต้องดูว่ามติในการที่ประชุมใหญ่เขามีมติแต่งตั้งหรือคัดเลือกกรรมการกันอย่างไร เพราะหลังจากนั้นแล้วตามระเบียบก็จะเป็นเรื่องกฎหมายที่จะต้องไปจดทะเบียนคณะกรรมการของนิติบุคคล และต้องดูในเรื่องเอกสารในการไปจดทะเบียนว่าต้องมีเอกสารใดบ้าง แต่ในปัจจุบันมีเพียงแค่เลข 13 หลัก เพื่อให้รู้ตัวตนของคนที่ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการ ก็พียงพอที่จะจดทะเบียนขึ้นเป็นคณะกรรมการใหม่ได้แล้ว ซึ่งจากการที่ตนได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่สำนักงานงานที่ดิน และสอบถามทางผู้จัดการมา รู้ว่าเขาไม่ยอมส่งมอบสำเนาบัตรประชาชนให้ แต่การจดทะเบียนก็สามารถจดได้เพราะเขาได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการในที่ประชุมใหญ่มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!