ประจวบคีรีขันธ์-นำร่องลดฝุ่น PM 2.5 จากควันดำท่อไอเสียรถของทางราชการ

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก) 

        นำร่องลดฝุ่น PM 2.5 จากควันดำท่อไอเสียรถของทางราชการ 20 หน่วยงาน-เน้นกำชับทุกหน่วยราชการ และประชาชนนำรถเข้าตรวจฟรีได้ทุกจุดบริการ(มีคลิป)

           วันที่ 5 ก.พ.63 นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Kick Off ประจวบคีรีขันธ์หมดควันดำ แก้ปัญหาฝุ่นละอองมลพิษในอากาศ PM 2.5 ให้ลดน้อยลง หรือหมดไปจากพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยนำร่องตรวจสอบควันดำรถของหน่วยงานราชการ จำนวน 20 หน่วยงาน พร้อมปล่อยแถวขบวนรณรงค์รถของส่วนราชการ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หลังใหม่) โดยมี พันเอกกรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบ พันเอกธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก หัวหน้าส่วนราชการ และ หน่วยงานราชการ 20 หน่วยงานเข้าร่วม
          ทั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีจำนวนมากเกินค่ามาตรฐานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งถือเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบในหลักการ 12 มาตรการแก้ไขปัญหาและมาตรการเกี่ยวกับรถยนต์ของส่วนราชการที่ต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคันในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้บูรณาการร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดประจวบ ตำรวจทางหลวงประจวบ กอ.รมน.จังหวัด นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด และส่วนราชการทุกส่วนในจังหวัด เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา
           โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานบูรณาการร่วมกับสถานตรวจสภาพรถของทางราชการ 3 แห่ง และเอกชน 44 แห่ง ทั้ง 8 อำเภอ เพื่อให้บริการตรวจวัดค่าควันดำกับรถของทางราชการและประชาชนฟรีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมกับดำเนินการสุ่มตรวจสอบรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีควันดำ ต้องมีค่าไม่เกินมาตรฐานการวัด 45% และหากรถยนต์คันใดมีค่าควันดำเกินกว่า 45 เปอร์เซ็นต์ จะมีความผิดตาม พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 71/148 คือใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 50,000 บาท และความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก มาตรา 10 ทวิ ใช้รถที่มีเครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่นละออง เคมี หรือเสียงเกินเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนด ปรับไม่เกิน 1,000 บาท จึงฝากขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นรถที่มีค่าควันดำให้จดจำรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถ เลขข้างรถ วันเวลาที่พบ แจ้งไปยังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสาร และรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584

              นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ถึงแม้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะมีพื้นที่ติดภูเขาและติดทะเล แต่ปัญหาฝุ่นละอองก็ยังมีอยู่ ดังนั้นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบ ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดกิจกรรม Kick Off ประจวบคีรีขันธ์หมดควันดำ โดยมุ่งเน้นเข้มงวดในการตรวจสภาพรถยนต์ ตรวจจับรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ ด้วยวิธีตรวจค่าควันดำของรถยนต์ทางราชการทุกคันเป็นลำดับแรก ตลอดถึงรถยนต์ภาคส่วนต่างๆ และหากพบรถไม่ผ่านมาตรฐานให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนอนุญาตนำออกมาใช้งาน โดยเน้นกำชับให้ทุกส่วนราชการนำรถทุกคันเข้าตรวจค่าควันดำกับสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในเวลาราชการได้ทั้ง 3 สาขาในพื้นที่จังหวัด พร้อมสรุปผลการดำเนินการรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 63 นี้ ส่วนการจุดเผาไร่-เผาป่าได้มอบหมายให้ทั้ง 8 อำเภอดำเนินการเข้มงวดกวดขัน หากพบให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/