ป.ป.ช.มีมติชี้มูล นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบุรี ร่ำรวยผิดปกติ 88 ล้านบาทเศษ

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร

ป.ป.ช.มีมติชี้มูล นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบุรี ร่ำรวยผิดปกติ 88 ล้านบาทเศษ

             สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบุรี ร่วมแถลงข่าว “ผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565” นางสาวอภิสร์ญา พัดเกร็ด ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาค 7 ได้จัดให้มีการแถลงข่าว “ผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565” โดยมีนายหิรัณย์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 เป็นประธาน โดยเป็นการแถลงผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน และด้านป้องกันการทุจริต ตลอดจนร่วมกันตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ซึ่งมีสื่อมวลชนจากจังหวัดในพื้นที่ภาค 7 เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุมปั้นดิน โรงแรมราชาบุระ ตำบลบ้านไร่ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2565

            โดยสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี ได้รายงานผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีเรื่องไต่สวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณามีมติ (1 ตุลาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2565) จำนวน 5 เรื่อง ดังนี้
เรื่องที่ ๑ เลขคดีแดง ๑๔๔๖-๑-๕๐/๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๗๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ (ทบทวนมติครั้งที่ ๗๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔)
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
สอบราคาจ้างก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓๔๔ ช่วง กม. ๑๓+๐๐๐ ถึง ๑๔+๐๐๐ หมู่ที่ ๖ บ้านพุบอน โดยมิได้กำหนดราคากลาง
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

เรื่องที่ ๒ เลขคดีแดง ๑๔๔๗-๑-๕๐/๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๗๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ (ทบทวนมติครั้งที่ ๗๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔)
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
กำหนดราคากลางโครงการก่อสร้างอาคารตลาดกลางซื้อ/ขายผลผลิตจากการเกษตร หมู่ที่ ๘ เกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กาหนด
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

เรื่องที่ ๓ เลขคดีแดง ๒๓๔-๑-๒๐/๒๕๖๕
มติครั้งที่ ๔๖/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๕
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินมากขึ้นผิดปกติ หรือมีหนี้สินลดลงผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูล อันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จานวน ๓๒ รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๘๘,๔๒๖,๐๑๑.๒๖ บาท
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูล อันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่

เรื่องที่ ๔ เลขคดีแดง ๑๓๔๐-๑-๕๐/๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๑๖๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
กำหนดคุณลักษณะเฉพาะในการจัดซื้อรถยนต์นั่งส่วนกลางแบบ ๓ ตอน ๕ประตู โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา ๑๕๗ และมีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง

เรื่องที่ ๕ เลขคดีแดง ๑๒๘๙-๑-๕๐/๒๕๖๔
มติครั้งที่ ๑๕๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
นำเงินที่ได้จากรวบรวมเงินที่ได้จากการถ่ายเอกสาร ค่าธรรมเนียมการสมัครโครงการ น.ส.ว. ขอโอกาส และเงินที่ได้ขายเสื้อให้กับนักเรียนโครงการ น.ส.ว. ขอโอกาส ไปซื้อรถยนต์โตโยต้า รุ่นคอมมูเตอร์ แบบ KDH 222R-LEMDYT/A๖ สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 2848 จังหวัดเพชรบุรี
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา ๑๔๗ มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ ประกอบมาตรา ๘๖ มาตรา ๙๐ และมาตรา ๙๑และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

สำหรับการแถลงข่าวดังกล่าวเป็นการแถลงสรุปผลการดำเนินงานภารกิจทั้ง 3 ด้าน ของ สำนักงานป.ป.ช.ภาค 7 และสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดในภาค 7 รวม 8 จังหวัด ได้แก่ ด้านปราบปรามการทุจริต ด้านป้องกันการทุจริต และด้านการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
ด้านปรามปรามการทุจริต ในปีงบประมาณ 2565 มีเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล ทั้งหมด 35 เรื่อง แบ่งเป็น ชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย 23 เรื่อง ชี้มูลความผิดทางวินัย 1 เรื่อง ชี้มูลความผิดทางอาญา 9 เรื่อง ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ 1 เรื่อง ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอน ดำเนินการตามมาตรา64 1เรื่อง และข้อกล่าวหาตกไป หรือยุติการสอบสวน 3 เรื่อง
ด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ประกอบด้วย การตรวจสอบ ปรกติ 1,617 บัญชี การตรวจสอบยืนยัน 11 บัญชี และการตรวจสอบเชิงลึก 9 บัญชี
ด้านการป้องกันการทุจริต ได้ดำเนินการโครงการสำคัญๆ เพื่อเป็นการลดโอกาสที่จะเกิดคดีความ ตามนโยบาย “ป้องนำปราบ” อาทิ โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ( Integrity and Transparency Assessment : ITA ) โดยมีหน่วยงานภาครัฐในเขตพื้นที่ภาค 7 เข้าร่วมรับการประเมินทั้งหมด 706 แห่ง โดยมีคะแนนเฉลี่ยทุกหน่วยงานในพื้นที่ คือ 85.64 คะแนน และมีหน่วยงานที่มีผลคะแนนผ่านเกณฑ์ จำนวน 446 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 63.17 สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 18.62 โดยจังหวัดที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ จังหวัดสมุทรสาคร 91.66 คะแนน
โครงการป้องกานและการแก้ไขปัญหาการทุจริตในระดับพื้นที่ ได้มีการผนึกกำลังกันร่วมกันติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง ติดตาม สังเกตการณ์โครงการของหน่วยงานภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้าง/ปรับปรุงถนน โครงการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด 19 โครงการอาหารกลางวันรวมทั้งสิ้น 153 หน่วยงาน 226 โครงการ และตรวจสังเกตุการณ์การใช้ใช่งบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 562,905,941.11 บาท
การดำเนินการศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center : CDC) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการแจ้งเบาะแสจากศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ Corruption Deterrence Center : CDC จำนวน 29 เรื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการป้องปรามและระงับยับยั้งการทุจริตที่เกิดขึ้ในพื้นที่ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ เช่น การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนผ่านรายการโทรทัศน์ข่าว 3 มิติ เมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.65 เรื่องบุกรุกที่ดินและเอกสารสิทธิ์ที่อาจได้มาโดยมิชอบ บริเวณริมเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นต้น.