ดร.วิชิต รองหัวหน้า นำทีมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ลงพื้นที่หาทางแก้ปัญหาช้างป่าให้ชาวกุยบุรี

ดร.วิชิต รองหัวหน้า นำทีมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ลงพื้นที่หาทางแก้ปัญหาช้างป่าให้ชาวกุยบุรี

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

              ดร.วิชิต รองหัวหน้า นำทีมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ลงพื้นที่หาทางแก้ปัญหาช้างป่าให้ชาวกุยบุรี

              วันที่ 10 กันยายน 2565 นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล รองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวนหลายคน พร้อมด้วย นายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันลงพื้นที่พบชาวบ้านกุยบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าเข้าบุกทำลายพืชไร่ ที่วัดรวมไทย ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายมนตรี ลังกาพินธุ์ นายอำเภอกุยบุรี ร่วมสังเกตการณ์ รวมถึงชาวบ้านรวมไทย บ้านย่านซื่อ รวมถึงผู้ที่ได้ผลกระทบจากช้างป่า มาร่วมรับฟังแนวทางการแก้ปัญหา จากกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเนื้อหาในการหารือมีประเด็นอยู่ที่ การศึกษาทางเดิน และพื้นที่หากินของช้าง การใช้ธรรมชาติเป็นปราการป้องกันช้าง และอื่นๆอีกหลายแนวทาง ซึ่งทางชาวบ้านได้ร้องขอให้ช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ให้พิจารณาสร้างถนนตรวจการณ์ หรือทางลำลอง ตามแนวตะเข็บระหว่างที่ทำกินของชาวบ้านกับแนวเขตป่าสงวนและเขตอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อใช้เป็นเส้นทางตรวจการณ์เพื่อสะดวกต่อการผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า

             ซึ่งนอกจากต้องการเส้นทางลำลองในเบื้องต้นแล้ว ในระยะยาว ชาวบ้านต้องการให้มีการสร้างรั้วกันช้างขึ้นโดยจะมีการสร้างแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะสร้างรั้วในลักษณะไหน ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย รวมทั้ง นายพรเทพ สส.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับปากว่าจะหาทางประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้านนายอำเภอกุยบุรี ที่นั่งรับฟังได้ให้ข้อคิดกับคณะที่มาร่วมแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านว่า การพูดคุยในวันนี้นั้น ถือว่าคุยกับคนรู้เรื่อง แต่เราคุยกับช้างไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าช้างต้องการอะไร ช้างคิดอะไร การที่จะแก้ปัญหาจึงต้องมีการศึกษาก่อนให้ดี จึงฝากเป็นข้อคิดไว้ ด้านนายวิชิต กล่าวว่า ตนเองได้รับการร้องขอจากชาวบ้านรวมไทย บ้านย่านซื่อ บ้านพุบอน ของอ.กุยบุรีว่า ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่า ตนและกรรมการบริหารพรรคจึงได้ลงพื้นที่มารับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้าน และทราบว่า ทางชาวบ้านต้องการเร่งด่วนก็คือ อยากได้ทางลำลองหรือทางตรวจการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯและชาวบ้านได้ใช้เป็นเส้นทางผลักดันช้าง อีกทั้งต้องการรั้วที่สามารถกันช้างป่าได้ ส่วนเรื่องสุดท้ายคือหาแนวทาง และผลักดันบางจุดให้สามารถเปิดเป็นไนท์ซาฟารี ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมสัตว์ได้ในเวลากลางคืน โดยเรื่องหมดนี้ ตนพร้อมคณะกรรมการและนายพระเทพ จะพยายามผลักดันให้มีการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างเร็ววันต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!