สุพรรณบุรี-วงจรปิดจับภาพรถพ่วงซิ่งแข่งกันชนท้ายสิบล้อชนเสาไฟฟ้าตกข้างทางดับ

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี 

วงจรปิดจับภาพรถพ่วงซิ่งแข่งกันชนท้ายสิบล้อชนเสาไฟฟ้าตกข้างทางดับ

            ที่จังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 16 ส.ค. พ.ต.ท.นพนันท์ เลื่องเลิศ สารวัตรสอบสวน สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีเสียชีวิตติดภายในและมีกระแสไฟฟ้ารั่ว บริเวณจุดกลับรถหน้าบริษัทไทยฟู๊ด ถนนสาย 321 มาลัยแมน อู่ทอง-นครปฐม หมู่ 3 ต.สระพังลาน จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.อู่ทอง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอู่ทอง และ หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์อู่ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 84-7640 สุพรรณบุรี จอดอยู่สภาพด้านท้ายพังเสียหาย ส่วนรถคู่กรณี เป็นรถ บรรทุกพ่วง สีเขียว ทะเบียน ตัวแม่ 86-6882 นครปฐม ลูกพ่วง 86-6883 นครปฐม สภาพหัวลากชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นตกลงไปจมน้ำในน้ำข้างทางครึ่งคันหน้ารถมีรอยชนพังเสียหายยับเยิน ภายในรถมีร่างผู้เสียชีวิตถูกอัดติดคาเบาะนั่งคนขับ และบริเวณรอบตัวรถมีกระแสไฟฟ้าแรงสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงไปช่วยเหลือได้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงทำการตัดกระแสไฟ หน่วยกู้ชีพกู้ภัยจึงลงไปใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ช่วยเหลือนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถนำออกมาจากซากได้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายมาโนช ศิริไพบูลย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 7 ต.หนองบ่อ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
จากการสอบถามนายสายัน วิหก อายุ 53 ปี คนขับรถสิบล้อบ้านอยู่ ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนขับออกมาจาก ต.สระพังลาน จะไปบรรทุกหินกำลังจอดรอกลับรถ สังเกตเห็นรถพ่วงคู่กรณีขับมาจากอำเภออู่ทอง มุ่งหน้าเข้า นครปฐม ด้วยความเร็วลักษณะแข่งกันมากับรถสิบล้อจู่ๆได้พุ่งชนท้ายรถของตนอย่างแรงก่อน จากนั้นรถพ่วงได้เสียหลักพุ่งข้ามเลยไปชนเสาไฟฟ้าแรงสูงและตกไปในคูน้ำทำให้คนขับเสียชีวิตดังกล่าว

              จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรใกล้จุดเกิดเหตุสามารถจับภาพขณะรถพ่วงคันเกิดเหตุ ได้ขับแข่งมากับรถสิบล้อด้วยความเร็วสูงโดยรถพ่วงขับอยู่เลนขวาสุดถึงที่เกิดเหตุมีรถสิบล้อจอดรอเลี้ยว และรถพ่วงหักหลบไม่พ้นจึงพุ่งชนท้ายรถสิบล้ออย่างแรงจนรถเสียหลักข้ามเกาะกลางถนนก่อนจะไปชนเสาไฟฟ้าแรงสูงและตกลงไปร่องน้ำข้างทาง ทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป