ปราจีนบุรี-ร้อยตำรวจตรียิงร้อยตรีทหารตาย ขณะตั้งองค์กฐินมอบตัว!

ปราจีนบุรี-ร้อยตำรวจตรียิงร้อยตรีทหารตาย ขณะตั้งองค์กฐินมอบตัว!

ปราจีนบุรี-ร้อยตำรวจตรียิงร้อยตรีทหารตาย ขณะตั้งองค์กฐินมอบตัว!

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

ร้อยตำรวจตรียิงร้อยตรีทหารตาย ขณะตั้งองค์กฐินเข้ามอบตัวกับ ผกก.สภ.นาดีแล้ว! พร้อมอาวุธปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ ญาติ – เมียคนตายแจงปมร้าวเมื่อ 2ปี มาจากผู้ตายเคยห้ามมือปืนไม่ให้มีเรื่องวิวาทชกต่อยกับพี่เขยที่เป็นตำรวจด้วยกันจนกลายเป็นข้อบาดหมาง ก่อนกลับมาบ้านเกิดนำเครื่องเสียงมาจาก จ.กาญจนบุรี มาช่วยในงานบุญกฐิน ที่บ้านเกิดแล้วพบจุดจบขณะกำลังตั้งเครื่องเสียง ตำรวจมือปืนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกพี่-ลูกน้องกัน ขับขี่กระบะ ลงมาจอด – ควักปืน 9 มม.มาจ่อยิงจนฟุบจะยิงซ้ำอีกนัดคนห้าม-แย่งปืนแต่ก็ไม่รอดเสียเลือดมาก-ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำส่ง ตัวรักษาต่อที่ รพ.กบินทร์บุรี นำศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวชกรมตำรวจ ญาติได้เตรียมนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลวัดบูรณะศรัทธาธรรม (วัดบ้านแก้ง ) หมู่ 4 ต. สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สถานที่ถูกยิง
            เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ 12 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้ากรณี ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร กองคำ รอง สว.สส.สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรีใช้อาวุธปืนพกประจำกายขนาด 9 มม.ยิง ร้อยตรี นัทธกิจ ประสานกก อดีตนายทหารสัญญาบัตร(บำนาญ) อายุ 63 ปี เลขที่ 59 /1 หมู่ 6 ต.ลาดหญ้า อ. เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 1 นัดกระสุนปืนฝังในบริเวณใต้อกซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัสหน้าเต้นลานตั้งเครื่องเสียง หน้าศาลาการเปรียญ วัดบูรณะศรัทธาธรรม (วัดบ้านแก้ง )หมู่ 4 ต. สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ต่อมาผู้บาดเจ็บเพื่อนบ้าน ได้รีบนำส่งห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.นาดี และ ถูกนำส่งรักษาอาการต่อที่ รพ.กบินทร์บุรี แต่จากที่เสียเลือดมากและทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตระหว่างนำส่งรักษาต่อ

ทราบต่อมามือปืนที่ก่อเหตุสลดกลางงาน ตั้งองค์กฐินที่เตรียมทอดกฐินสามัคคีในวันที่ 12 พ.ย.66นี้คือ ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร กองคำ สว.สส.สภ.นาดี อายุ 55 ปี ทำหน้าที่สิบเวรฯดแลห้องขัง สภ.นาดี ซึ่งเป็นลูกพี่ – ลูกน้องกันกับคนตาย ก่อนเกิดเหตุขับรถกระบะยี่ห้อโคโยต้า 4ประตู สีดำมาลำพัง หลังจอดรถได้เดินเข้ามาหาผู้ตายแล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายขนาด 9 มม.ยิงผู้ตาย จำนวน 1 นัดจนล้มฟุบลงกับพื้นหน้าเครื่องเสียงที่กำลังติดตั้ง-ลองเครื่องเสียง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกำลังจะยิงซ้ำอีกนักคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ห้ามปรามก่อนที่คนยิงได้อาศัยความชุลมุนขับรถกระบะหลบหนี
           สาเหตุการยิงกันเสียชีวิต ญาติ – และ ภรรยาของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าก่อนหน้าเมื่อ 2 ปีก่อนนั้น คนก่อเหตุ ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร ได้ทะเละวิวาทชกต่อยกับ ตำรวจนายหนึ่งสังกัด สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพี่เขยแต่สู้ไม่ได้ โดยขณะเกิดเรื่องนั้นร้อยตรี นัทธกิจ (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งเป็นลูกพี่-ลูกน้องได้เข้าห้ามคู่กรณีทั้ง 2 จนคนก่อเหตุโกรธเคืองเข้าใจว่าร้อยตรี นัทธกิจ (ผู้เสียชีวิต) เข้าข้างคู่กรณี และบาดหมางกัน  และ วันเกิดเหตุ (10พ.ย.) ช่วง 12.20 น.ได้ก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้นท่ามกลางชาวบ้าน และหมู่ญาติ ๆ ที่กำลังช่วยกันตั้งองค์กฐิน ที่จะกำหนดในวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ย.66 นี้

พ.ต.อ. นัทกานต์ ประทุมตรี ผกก.สภ.นาดี กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวแล้วช่วงก่อนค่ำวันที่ 11 พ.ย.66 ที่ สภ.นาดี พร้อมอาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ และยอมรับสารภาพทั้งหมด  โดยคู่กรณี ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร กับ ร้อยตรี นัทธกิจ (ผู้เสียชีวิต) ทั้งคู่ เป็นญาติพี่น้องกัน เขาเคยมีเรื่องกันก่อนตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว เวลามาเจอกันก็มีเหตุชกต่อยกัน หลังจากเกิดเหตุก็ ขับรถ มาคอยผู้กำกับที่โรงพัก แล้ว โทร บอกว่า ผม ไปก่อเหตุนี้มาพร้อม นำอาวุธปืนมาคอยผู้กำกับ ที่โรงพัก เขาก็ยอมรับ ว่า ไม่ต้องการถึงขนาดจะ ยิงให้ตาย   คาดไม่ทราบว่าจะโดนตรงไหน ตอนแรกยังไม่ได้เสียชีวิต แจ้งข้อหาพยายามฆ่าแต่ตอนนี้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า และ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตั้งกรรมการสอบสวนแท้จริง แล้วก็สั่งการให้ระงับ รับราชการ ให้การรับสารภาพ ปืนประจำตัว 9 มม.  สำหรับ ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร ปกติเป็นคนเฉยๆ ไม่เกี่ยวข้องกันข้างนอกเลย ทำหน้าที่สิบเวร ควบคุมดูแลหน้าห้องผู้ต้องหา พ.ต.อ. นัทกานต์ กล่าว

ขณะที่ มัคทายก – ชาวบ้าน ร่วมกันกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกหลานคนบ้านแก้ง หมู่ 4 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แต่ ไปรับราชการทหาร ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว และมีภรรยาที่ จ.กาญจนบุรี เป็นคนใจบุญกุศล เป็นที่รักของชาวบ้าน จะนำเครื่องเสียงตนเองมาช่วยงานกฐิน –ผ้าป่าที่บ้านเกิดทุกปี

นายอุดม ศรีกล่ำ อายุ 72 ปี มัคทายก กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ชาวบ้านอยู่กันเต็ม ศาลาการเปรียญ กำลังเตรียมตั้งองค์กฐินสามัคคี และจัดเตรียม เวที และ ในโรงครัวทำข้าวต้มมัด สำหรับการเตรียมทอดกฐินสามัคคี เช้าวันที่ 12 พ.ย.66 คนเกิดเหตุเป็นนายตำรวจชื่อ ร.ต.ต. พงษ์เพชร กองคำ สว.สส.สภ.นาดี ผู้ควบคุม ผู้ต้องหาสภ.นาดี ได้ ขับรถ Toyota สีดำ เข้า มาจอด หน้ามณฑป ข้างศาลาการเปรียญแล้ว เดินตรง เข้ามาหาผู้ถูกยิง ที่กำลังจัดเตรียม- เปิดเครื่องเสียงช่วยงานวัด แล้วได้ยิน เสียงปืนดัง 1 นัด ตนออกมาดูพบถูก ผู้ถูกยิง ฟุบอยู่ ผู้ยิงจะยิงซ้ำ แต่เพื่อนบ้านที่อยู่ได้ห้ามไว้ จากนั้น คนยิงได้ขึ้นรถกระบะขับ หลบหนีไป นายอุดม กล่าว
                ด้านนางบุญสม เกตุเพ็ง อายุ 65 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ในครัว กำลังเตรียมอาหารและทำข้าวต้มมีด ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด มองมาเห็นน้องชายฟุบลง เห็นคนยิงกำลังจ่อยิงจะยิงซ้ำ เพื่อนน้องชาย เข้ามาห้ามเอาปืนออก คนยิงเป็นตำรวจ วันนี้ไม่มีเรื่องกัน แต่เคยมีเรื่องกันมาก่อนเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว วันเกิดเหตุน้องชายตนเอาโต๊ะมา ตั้ง แล้วก็เปิดเครื่องเสียง สำหรับคนก่อเหตุ ชอบยิงปืนที่บ้านพัก แต่ไม่มีใครแจ้งความร่องทุกข์และคนยิงนั้น แม่ของเขา เป็นพี่น้องคลานตามกันมากับแม่ของตนเอง คือเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คนยิงมีลูกบวชที่วัดนี้ แล้วจะสึกหลังจากทอดกฐินแล้ว นางบุญสมกล่าว

ขณะ นางประณอม ประสานกก อายุ 59 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า สามีเป็นคนที่หมู่บ้านนี้ เดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรีเพื่อกลับมาทอดกฐินสามัคคีที่บ้านเกิด และไปติดตั้งเตรียมเครื่องเสียงช่วยทางวัด ส่วนคนยิง ก่อนหน้าเคยมีเรื่องกับเพื่อนตำรวจเป้นญาติ ๆ กัน คนตายได้ห้าม ทำให้คนก่อเหตุโกรธเข้าใจว่าสามีไปเข้าข้างคนที่มีเรื่องด้วยตั้งแต่นั้นมา
ก่อนมาตนบอกว่า อย่ามาดีกว่าเดี๋ยวจะมีเรื่องมีราวกันกับคนยิง ที่ยังโกรธเคืองอยู่ แต่สามีบอกว่า มาทำบุญบ้านเกิดทุกปีไม่น่ามีอะไรและ นำเครื่องเสียงมาจาก จ.กาญจนบุรีมาตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.66 เพื่อมาช่วยงานก่อนพบจุดจบ

สำหรับศพสามี ได้ส่งชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จะนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลฯหลังแล้วเสร็จ พร้อมทำพิธีฌาปนกิจศพ ที่ วัด บูรณราษฎร์ศรัทธาทำ(วัดบ้านแก้ง )เพราะว่า มาทำบุญ ที่นี่ ก็เลยไว้วัดนี้ เดินทางมาจากกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่9 พ.ย.66 นำเครื่องเสียงมาเต็มคันรถ เพื่อ มาเปิดใน งานกฐินสามัคคี วันที่ 12 พ.ย. นี้ นางประณอมกล่าวในที่สุด

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!