ร้อยเอ็ด-อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน เดินตามรอยพ่อในหลวงรัชการที่ 9

ร้อยเอ็ด-อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน เดินตามรอยพ่อในหลวงรัชการที่ 9

ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน

                  อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน เดินตามรอยพ่อในหลวงรัชการที่ 9 ทำการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในครอบครัวและเสริมรายได้ห่างไกลจากโควิด 19

                  ที่ ไร่นาสวนผสม ของ นายบรรจง หัสจรรย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนหลายแห่ง ปัจจุบันอายุ 61 ปี เกษียณราชการมาแล้ว 1 ปี ภูมิลำเนาเดิม อยู่ที่ อ. เมือง จ. มหาสารคาม ปัจจุบันอยู่ บ้านเลขที่ 141 บ้านท่าลาด หมู่ที่ 1 ต. เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ทำการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เชิงไร่นาสวนผสม มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งผักปลอดสารพิษ ผลไม้ตามฤดูกาล ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงปลากระชัง เป็นแหล่งอาหารโปรตีน และสามารถขายเป็นรายได้เสริมในครอบครัว
                 นายบรรจง หัสจรรย์ กล่าวว่า แรงบันดาลใจ ข้อแรก ที่คิดคือทำตามรอยพ่อเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสิ่งที่ยั่งยืนแม้ว่าจะไม่มีเงินแต่มีกินมีใช้ ข้อที่2 เป็นแบบอย่างของลูกหลานประชาชนในพื้นที่ มีอาหารการกิน มีสิ่งที่คงอยู่อย่างถาวร มีต้นไม้ให้ความชุ่มชื้นแล้วก็สามารถทำประโยชน์ ทำที่พักอาศัย กิ่งไม้ที่เราตัดออกก็สามารถนำมาทำฟืนนำมาเผาถ่านก็ทำให้เราอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน เมื่อเราเกษียณมาเราก็จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน พูดง่ายๆว่าคนเกษียณมามีรายได้น้อยต้องไปขอลูกหลานบ้างแต่เมื่อเรามีสิ่งที่เราทำเราสร้างไว้เราก็อาศัยอยู่กินกับสิ่งที่เราทำได้อย่างไม่เดือนร้อน นี้คือสิ่งที่คิดและเป็นแรงบันดาลใจที่อย่างทำ ช่วงสถานการณ์โควิดนี้เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องอาหาร เราไม่จำเป็นต้องวิ่งไปหาอาหารไม่จำเป็นต้องซื้อเรามีสวน มีปลา มีกบ,กุ้ง,หอยผลไม้ พืชผัก เราสามารถอยู่กินแล้วก็สิ่งสำคัญเราไม่ได้ไปใกล้ชิดคนจำนวนหมู่มากเราก็หลีกเลี่ยงออกมาคิดว่าปลอดภัยจากการติดเชื้ออย่างแน่นอน
               นายบรรจง กล่าวอีกว่า ได้ทำการเกษตรผสมผสานในพื้นที่ 7 ไร่ นอกจากปลูก พืชผัก ผลไม้ และไม้ยืนต้นสูงแล้ว ยังขุดบ่อเลี้ยงปลา จำนวน 3 บ่อ เลี้ยงปลาหมอพันธุ์ชมพร 1 บ่อ ปลาช่อน 1 บ่อ และปลาธรรมชาติอีก 1 บ่อ ประมาณ 3 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีน ได้เลี้ยงปลาหมอพันธุ์ชมพร ครั้งละ ห้าพันตัว และปลาช่อนตามจำนวนสามารถเพาะพันธุ์เอง ครั้งละประมาณ สองพันตัว เลี้ยงปลาทั้ง 2 ชนิด การเลี้ยงใช้ระยะเวลา 5 เดือน สามารถจับขายได้กิโลกรัมละ 80 บาท มีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมาซื้อทุกวัน จับขายมีรายได้ทุกวัน วันละประมาณ 20 – 40 กิโลกรัม จนหมดบ่อจึงนำลูกปลามาเลี้ยงใหม่ สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนตลอดปี และการเดินตามรอยพ่อเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสิ่งที่ยั่งยืนอย่างแน่นอน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!