ประจวบคีรีขันธ์-องคมนตรีตรวจติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ประจวบคีรีขันธ์-องคมนตรีตรวจติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร

                 เมื่อวันที่ 19 พ.ค.66 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วย นางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการ กปร. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เดินทางไปเยี่ยมบ้านเกษตรกร นางสมพร คีรีนิล เลขที่ 36 หมู่ 6 ต.หาดขาม อำเภอกุยบุรี จ.ประจวบฯ
             โดยสมาชิกกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้แบ่งพื้นที่ทำการเกษตรออกเป็น 3 แปลง ได้แก่ แปลงที่ 1 พื้นที่ 9 ไร่ ทำสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ แปลงที่ 2 พื้นที่ 26 ไร่ ทำไร่นาสวนผสม ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี และแปลงที่ 3 พื้นที่ 21 ไร่ ปลูกทุเรียน สับปะรด อะโวคาโด พริก มะนาว มะพร้าว มะละกอ กาแฟ โกโก้ และพืชผักสวนครัว ใช้น้ำจากลำห้วยธรรมชาติและน้ำจากอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ ซึ่งจากการขายผลผลิตสร้างรายได้กว่า 300,000-400,000 บาทต่อปี สามารถใช้หนี้สินจนหมด ทำให้ครอบครัวมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากนั้นเดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เพื่อติดตามและตรวจเยี่ยมโครงการฯ
                 โอกาสนี้ผู้แทนกรมชลประทาน รายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ โดยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2546 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้พิจารณาเพิ่มปริมาณการเก็บกักของอ่างเก็บน้ำยางชุมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ป่ากุยบุรี ตลอดจนส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และมีพระราชดำริเพิ่มเติมในการทำระบบกระจายน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ พิจารณาก่อสร้างฝายต้นน้ำ (Check Dam) และสร้างสระน้ำขนาดเล็กตามลำห้วยในพื้นที่เหนืออ่างเพื่อช่วยเก็บกักน้ำและช่วยชะลอน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วม ต่อมาหน่วยงานที่ร่วมดำเนินงานสนองพระราชดำริดำเนินการเพิ่มระดับเก็บกักน้ำ ส่งผลทำให้พื้นที่มีความชุ่มชื้นโดยเฉพาะป่าโดยรอบทำให้ช้างป่ามีแหล่งน้ำ เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์จาก 15,300 ไร่ เป็น 20,300 ไร่ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับลุ่มน้ำกุยบุรี ช่วยผลักดันน้ำเค็มในคลองกุยบุรีในช่วงหน้าแล้ง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดรวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำตั้งแต่ปี 2533 มีสมาชิก 220 ราย เคยได้รับรางวัลสถาบันเกษตรผู้ใช้น้ำชลประทานดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2543 ต่อมาจึงได้ยกระดับเป็น สหกรณ์การเกษตรชลประทานยางชุม จำกัด มีสมาชิกจำนวน 300 ราย ปัจจุบันได้จัดตั้งเป็นคณะกรรมการจัดการชลประทาน เมื่อปี 2552
              ต่อมา องคมนตรีและคณะ พบปะพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรซึ่งได้สร้างขวัญและกำลังใจในการร่วมกันดูแลรักษาอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดพร้อมกันนี้ได้ร่วมปล่อยปลาลงในอ่างเก็บน้ำเพื่อแพร่ขยายพันธุ์เป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!