สุพรรณบุรี-ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองสุพรรณจับเอเย่นยาเสพติดเช่าอพาร์ทเมนต์มั่วขาย

ภาพ/ข่าวศูนย์ข่าว สุพรรณบุรี

ยาเสพติดเป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคม ได้แพร่ระบาดก่อให้เกิดความรุนแรง ทุกหย่อมหญ้า ปัญหาอาชญากรรมเกิดไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งชุมชน ผู้ใช้แรงงาน สถานบันเทิงและสถานศึกษา

                 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี สัง่การให้นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี กวดขันจับกุมพ่อค้ายาเสพติดและเครือข่ายในพื้นที่สุพรรณบุรี เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นกว้างในพื้นที่ โดยเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในพื้นที่ ตำบลรั้วใหญ่ เขตอำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ออกตรวจสอบ พบวัยรุ่นกำลังมั่วสุมกันอยู่จึงเข้าตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวรับสารภาพว่าเสพยาบ้ากันจริง จึงสอบสวนขยายผลกลุ่มวัยรุ่นให้การว่ายาบ้าที่พวกตนเสพซื้อมาจากนายติ๊ก บ้านอยู่ตำบลเดียวกัน กำลังฝ่ายปกครองจึง เข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวตามข้อมูลที่ได้
               เมื่อไปถึงพบนายปุณณชิต ช้างโต หรือติ๊ก รั้วใหญ่ อายุ 28 ปีกำลังนอนอยู่ในห้องนอนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงเข้าล็อกตัวไว้และตรวจค้นภายในห้องพบยาบ้า จำนวน 148 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนนายติ๊ก ให้การว่ายาบ้าดังกล่าวตนซื้อมาจาก น.ส.อมรศรี แก้วสระแสน อายุ 38 ปีหรือฉายา เตยบ้านโคก บ้านอยู่ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจึงวางแผนล่อซื้อยาบ้าจาก น.ส.เตย จำนวน 4 ถุง ราคา 7,200 บาทโดยนัดส่งยาบ้ากันที่หน้าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ตรงข้ามวัดป่าเลไลยก์ ตำบลรั้วใหญ่
             เมื่อถึงเวลานัด เตยบ้านโคก ได้เดินถือถุงใส่ยาบ้าเดินมาให้สายลับที่รออยู่ในรถแบบชิวๆ กำลังที่รออยู่ในรถจึงล็อกตัวไว้ได้พร้อมของกลาง สอบสวนเบื้องต้น น.ส.เตย รับว่าได้เช่าอพาร์ทเมนต์ ใกล้กันไว้พักมั่วสุมเสพยาและขายยาเสพติด ชุดจับกุมจึงคุมตัวไปตรวจที่ห้องพักชั้นสอง เมื่อเปิดประตูเข้าพบเพื่อนหญิงของ น.ส.เตย นั่งอยู่บนเตียง อีก 1 คนจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบย้า อีก 8 เม็ดยาเค น้ำหนักรวม 10.86 กรัม เครื่องชั่งดิจิทัล 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์การเสพยาเสพติดจึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นของกลางก่อนคุมตัวมาสอบสวนต่อที่กองร้อย ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี
                สอบสวน น.ส.อมรศรี แก้วสระแสน อายุ 38 ปีหรือฉายา เตยบ้านโคก ซึ่งอยู่ในลักษณะเหมือนคนมึนยา ให้การว่าก่อนถูกจับตนได้ไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี ได้รับการติดต่อจากลูกค้าซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นสายลับขอซื้อยาบ้า 8 ถุงราคา 7,200 บาทโดยนัดส่งยาบ้ากันที่ถนนทางเข้าอพาร์ทเมนต์ที่ตนเช่าเมื่อถึงเวลานัดตนได้นำยาบ้ามาส่งให้สายลับที่รออยู่ในรถเมื่อถึงเวลาจึงนำยาบ้ามาส่งและถูกจับ ยาบ้าดังกล่าวตนรับมาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในเมืองสุพรรณบุรี ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย มาแล้ว 3 ครั้งพ้นโทษมาได้ประมาณ 7 เดือนไม่ได้ทำงานอะไรและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 สำหรับห้องพักตนเช่าไว้ส่งของให้ลูกค้าและไว้เสพยาเสพติดกัน ตนเสพยาบ้าวันละ 4-5 เม็ด จากการตรวจสอบนับยาบ้าที่ล่อซื้อ 8 ถุงพบว่ายาบ้าไม่ครบตามจำนวน เหลือยาบ้าเพียง 780 เม็ด ถูกคนขายตอนไป 20 เม็ด
                 ทางด้านนายปุณณชิต ช้างโต หรือติ๊ก รั้วใหญ่ ให้การว่าตนทำงานช่วยครอบครัวซึ่งประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เคยถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดและขับรถประมาทมาแล้ว 3 ครั้ง หลังพ้นโทษตนรู้สึกเครียดเนื่องจากเมียทิ้งไปมีสามีใหม่ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติด และถูกแม่ห้ามไม่ให้ออกไปไหนเพราะกลัวว่าตนจะหันกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกตนไม่เชื่อที่แม่ห้ามและสอน จึงกลับมาเสพยาบ้าวันละ 8-10 เม็ดและขายยาหาเงินให้กระทั่งมาถูกจับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานายปุณณชิต ในข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหน น.ส.อมรศรี ในข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป