ปราจีนบุรี-ทุกข์ชาวบ้าน! ผวาช้างป่าอ่างฤาไน แปดริ้วข้ามฝั่ง เดินเคาะหน้าต่าง3หลังรวด

ปราจีนบุรี-ทุกข์ชาวบ้าน! ผวาช้างป่าอ่างฤาไน แปดริ้วข้ามฝั่ง เดินเคาะหน้าต่าง3หลังรวด

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

ทุกข์ชาวบ้าน! ผวาช้างป่าอ่างฤาไน แปดริ้วข้ามฝั่ง เดินเคาะหน้าต่าง3หลังรวดกลางดึกคาดว่าแล้งจัด-หิวโซ!

         วันนี้ 17 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านหมู่บ้านหนองประดู่หมู่ 7 คุ้มบ้านโนนสวนมัน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงเวลา 01.00น. ถึงเวลา 02 .00 น. วันนี้(17ธ.ค.) มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายป่ารอยต่อ5จังหวัดของภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง) บุกเดี่ยวข้ามฝั่งมา จ.ปราจีนบุรีสภาพหิวโซ เข้ามาเคาะหน้าต่างบ้านของชาวบ้านจำนวน 3 หลังติดกัน คาดว่ามาหาอาหารกิน เนื่องจากช่วงหน้าแล้งแหล่งอาหารในธรรมชาติมีน้อย และโขลงช้างมักข้ามฝั่งเข้ามาหากิน จนเกือบกลายเป็นช้างประจำถิ่น จน เจ้าของบ้านต่างตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ได้แต่นั่งดูช้างภายในบ้าน เห็นช้างยืนส่ายหัวไปมาอยู่ข้างบ้านตัวสั่นนับชั่วโมง บ้านหลังแรกที่ช้างป่าอ่างฤาไนเข้าไปและกัดกินกล้วยและมันเทศ คือบ้านของลุงจำรัส สร้อยจำปา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 7 ลุงจำรัสกล่าวว่าช่วงตี 1 (01.00น.) ของเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงหมาเห่าข้างหลังบ้าน เมื่อมองออกไปนอกบ้านเห็นเงาตะคุ่มๆเดินเฉียดบ้านไปและไปยืนกินต้นกล้วยซึ่งห่างจากบ้าน 10 เมตรเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง
          จากนั้นช้างป่าตัวดังกล่าวเดินออกไปถอนมันเทศที่ปลูกไว้ข้างบ้านกินหลายกอ ลุงจำรัสกล่าวว่าเมื่อคืนนี้ที่เห็นช้างงั้นตัวใหญ่มากยอมรับว่าตกใจกลัวเกือบช็อค ได้แต่แอบยืนดูอยู่ภายในบ้านหลังจากนั้นช้างป่าเดินออกจากไป บ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านของพี่ดารุณี สิวิไร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ที่ 7 พี่ดารุณีกล่าวว่าเมื่อคืนหมาเห่าและได้ยินเสียงเคาะที่หน้าต่างสามีกับตนได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่ภายในบ้าน ช้างป่าตัวดังกล่าวได้ยืนส่ายหัวไปมาอยู่ข้างหน้าต่างไม่ไปไหน ยืนส่ายหัวไปมาอยู่ข้างหน้าต่างนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นช้างก็ค่อยๆย้อนกลับไปทางหน้าบ้าน ตนเองกับสามีได้มาชะเง้อดูว่าช้างจะทำลายข้าวของหรือไม่และช้างก็เดินจากไป รุ่งเช้าตื่นมาพบว่าช้างมาเด็ดขนุนที่อยู่ข้างบ้านทิ้งไว้ 1 ลูก
          บ้านหลังที่ 3 เป็นบ้านของคุณตาวิชิต วันทำ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ที่ 7 คุณตาวิชิตกล่าวว่า ช่วงเวลาเกือบตี 2(02.00 น.) ได้ยินเสียงหมาเห่าจึงลุกขึ้นมายืนดูข้างบ้านปรากฏว่าเห็นช้างตัวใหญ่ มายืนหักต้นมะละกอหลังบ้าน 1 ต้นแล้วยืนส่ายหัวไปมาขณะนั้นเอามือทำหัวใจกลัวหัวใจจะวายเพราะเห็นช้างตัวใหญ่มาก จากนั้นช้างเดินจากไปในความมืด

          จนรุ่งเช้าออกมาดูพบร่องรอยช้างเดินจากหลังบ้านมายังสวนซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 10 เมตร พบรอยช้างยืนกินต้นกล้วยที่กำลังแก่ 1 กอหักทิ้งและหักกัดกินหน่อกล้าย เห็นรอยช้างป่าเดินออกจากกอกล้วยเข้าไปในป่าข้างบ้านประมาณ 20 เมตร ช้างป่าตัวดังกล่าวยังคงอยู่ในป่าข้างบ้านของชาวบ้าน

          ทาง ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนระวังและอย่าออกจากบ้านเข้าป่าใกล้บ้าน เกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากช้างป่าตัวดังกล่าว คาดว่าช่วงบ่ายของวันนี้ทีมชุดเฝ้าระวังช้างป่าจะแกะรอยช้างป่าและทำการผลักดันออกจากพื้นที่ต่อไป

          ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม วานนี้(16ธ.ค.) นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้นายทัศนัย สุธาพจน์ ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับจังหวัดปราจีนบุรี (ก.ช.ภ.จ.ปราจีนบุรี) ครั้งที่ 4/2565

           เพื่อพิจารณาการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 จากภัยช้างป่าในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้วและตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งถูกช้างป่าทำลายและกินพืชผล พืชไร่ของเกษตรกรได้รับความเสียหาย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!