ปราจีนบุรี-บุกรวบเฒ่าหื่นวัย 78 ปี ตัณหากลับกระทำอนาจารเด็กหญิง 4 ขวบ

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

          เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ 6 ต.ค.65 ร.ต.อ.สมบัติ วังวลรองสารวัตรเวร(สอบสวน)สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรีได้รับมอบตัว นายบุญเพ็ง หรือแดง อายุ 78 ปี  หมู่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ผู้ต้องหาคดี ตามหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เลขที่ 207/2565 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ข้อหา กระทำอนาจารแก่เด็กอายุ ไม่เกิน 13 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เหตุเกิด หมู่ 5 ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นนายแดงให้การปฏิเสธ
          ร.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า นายแดง มีพฤติการณ์กระทำความผิดที่เกี่ยวกับเหตุออกหมายจับ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มี น.ส.จีรนันท์  ผู้กล่าวหา น.ส. สมานมิตร พยานที่ 1 ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูผู้เสียหาย และน.ส. สมนึก พยานที่ 2 คนข้างบ้านที่พบเห็นขณะเกิดเหตุ ได้พา ด.ญ. น้อย(นามสมมติ) ผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่าบุตรสาว ของผู้กล่าวหาถูกนายบุญเพ็ง หรือ แดง ผู้ต้องหาใช้นิ้วแหย่อวัยวะเพศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2565 เวลา ประมาณ 17.00 น.จากการสอบสวนพยานที่ 1 ให้การว่าตามวันเวลาเกิดเหตุพยานที่ได้ไปซื้อสินค้าที่ตลาดบ้านคร้อโดยฝากให้พยานที่ 2 ที่เป็นน้องสาวให้ดูแลผู้เสียหายด้วย จากนั้นพยานที่ 2 ก็ได้เดินหาหน่อไม้บริเวณข้างบ้านของผู้ต้องหาที่มาพักอาศัยกับภรรยาของผู้ต้องหาและข้างบ้านของพยานที่ 1 พยานที่ 2 เห็นผู้ต้องหานั่งอยู่บริเวณแคร่ไม้ไผ่บริเวณหน้าบ้านของพยานที่ 1 โดยผู้เสียหายยืนอยู่บริเวณขาของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้หยอกกับผู้เสียหายจากนั้นผู้เสียหายก็นั่งลงกับพื้นพยานที่ 1 จึงได้ตะโกนบอกให้ผู้เสียหายกลับเข้าบ้านไป จากนั้นผู้เสียหายก็กลับเข้าบ้าน ผู้ต้องหาก็เดินกลับเข้าบ้านที่ผู้ต้องหามาอาศัยอยู่กับภรรยาเมื่อ พยานที่ 1 กลับมาจากตลาด พยานที่ 2 ก็แจ้งให้พยานที่ 1 ทราบว่าเห็นผู้ต้องหาหยอกกับผู้เสียหายที่บนแคร่ไม้ไผ่ พยานที่ 1 จึงเรียกผู้เสียหายหายแล้วพูดว่า “ บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปเล่นกับนาย แดง”
            ต่อมาในวันที่ 1 กันยายน 2565 ขณะที่พยานที่ 1 อยู่หลังบ้านได้ยินเสียงของผู้เสียหายบอกกับน้องสาวว่า “ ฉี่เป็นเลือดมาดูซิ “ พยานที่ 1 จึงได้ออกไปดูพบว่าของผู้เสียหายมีเลือดออกจริง จึงได้สอบถามผู้เสียหายว่าใคร ทำอะไร” ผู้เสียหายแจ้งว่า นาย แดง ได้ใช้นิ้วแหย่ในกางเกงหนูจำนวน 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2565 วันที่ พยานที่ 1 ไปตลาด” จากนั้นพยานที่ 1 จึงได้โทรศัพท์หาผู้กล่าวหาซึ่งเป็นมารดาของผู้เสียหาย ที่ทำงานอยู่อำเภอศรีมหาโพธิ แจ้งให้ผู้กล่าวหาทราบเมื่อผู้กล่าวหาทราบจึงได้พาผู้เสียหายและพยานที่ 1 และ พยานที่ 2 มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด จากนั้นผู้กล่าวหาได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจังหวัดปราจีนบุรี ต่อมาในวันที่ 6 กันยายน 2565 พนักงานสอบสวนพร้อมผู้กล่าวหาได้พาผู้เสียหายสอบสวนปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดปราจีนบุรี ต่อหน้าพนักงานอัยการและนักจิตวิทยานักสังคมสงเคราะห์ โดยผู้เสียหายยืนยันว่าผู้ต้องหากระทำความผิดจริงประกอบกับแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแจ้งผลการตรวจจึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้จริง แต่เนื่อง จากผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งโดยมาอาศัยกับภรรยาที่พิการและไม่ใช่บุคคลในพื้นที่เกรงว่าเมื่อผู้ต้องหาทราบว่า เป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้จริงจะหลบหนีไปยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
         ด้าน น.ส.สมานมิตร อายุ 62 ปี ยายของผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนได้ฝากหลานสาวไว้กับน้องสาวโดยน้องสาวออกไปหาหน่อไม้ หลานสาวได้ถูกนายแดงมาทำอนาจาร ตนพบหลานสาวผิดปกติที่อวัยวะเพศบวมเปล่ง ฉี่แสบขัดปนเลือด คาดคั้นหลานสาวจนทราบถูกนายแดงอุ้มขึ้นนั่งตักก่อนใช้นิ้วแหย่เข้าในอวัยวัยเพศรวม 3 ครั้ง จึงแจ้งมารดาของผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวนสภ.ประจันตคามและนำหลานสาวส่งรักษาอาการที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร”

         ด้านนายบุญเพ็ง อายุ 78 ปี ผู้ต้องหา บอกว่า ตนเองเพียงไปหยอกล้อกับเด็กหญิงที่บ้านใกล้เคียงกันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด