สระแก้ว-นายอำเภอโคกสูง เร่งขับเคลื่อนเปิดจุดผ่อนปรน ไทย-กัมพูชา
ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม
อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ได้ยกฐานะเป็นอำเภอ เมื่อ พ.ศ.2550 มีอาณาเขตด้านทิศตะวันออกติดกับประเทศกัมพูชา ไม่มีสิ่งกัดขวางตามธรรมชาติที่ชัดเจน มีเพียงป่าละเมาะ และท้องทุ่ง ประชาชนข้ามไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก ตั้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว
หลังจากได้ก่อตั้งเป็นอำเภอโคกสูง ทางจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ได้หารือระดับท้องถิ่น เพื่อเปิดจุดผ่อนปรน ที่บริเวณบ้านโนนหมากมุ่น – บ้านโอบายเจือน ตรงกับหลักเขตแดนที่ 43 และเชื่อว่า บริเวณดังกล่าว ไม่มีปัญหาเรื่องเขตแดน แต่อย่างใด
การเจรจา เพื่อขอเปิดจุดผ่อนปรน ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โคกสูง เป็นกิ่งอำเภอ กระทั่งยกฐานะเป็นอำเภอโคกสูง กว่า 20 ปี มาแล้ว การเปิดจุดผ่อนปรน ที่บ้านโนนหมากมุ่น ก็ยังไม่เป็นผล มีเพียงเจรจา ในที่สุดเรื่องก็เงียบไป
ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 นางศิริวรรณ สุคนธมาน ที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการตรวจสอบสภาพภูมิประเทศ เรื่องการขอเสนอเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านโนนหมากมุ่น-โอบายเจื่อน บริเวณหลักเขตที่ 43 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอโคกสูง ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกว่า 70 คน
ด้าน นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโคกสูง เผยว่า สำหรับที่บ้านโนนหมากมุ่น เป็นหนึ่งในอีกหลายพื้นที่ที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา เห็นชอบในหลักการที่จะเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าในอนาคต แต่ขณะนี้พื้นที่ไทยได้ให้ความสำคัญลำดับต้นๆ ที่รัฐบาลสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการ ที่จะมีการเปิดจุผ่อนปรนพื้นที่ตั้งแต่ปี 2556 ได้จัดทำการสำรวจและเก็บรายละเอียดพื้นที่พร้อม ๆ กับพื้นที่อื่น โดยกระบวนการเหล่านี้ได้มีการดำเนินการมาก่อนที่จะดำเนินการเพื่อยกระดับเป็นจุดผ่อนปรน มีกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ในทุก ๆ ด้านอย่างรอบคอบ รวมถึงประเด็นด้านเขตแดนและประเด็นด้านความมั่นคงต่าง ๆ โดยเรื่องดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรน ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน พื้นที่ที่มีความพร้อมที่จะเปิดเพื่อประโยชน์ของประชาชนตามแนวชายไทย-กัมพูชา เพื่อติดต่อไปมาหาสู่เพื่อความสะดวกขึ้น จะต้องก่อสร้างถนนเข้าสู่จุดผ่อนปรน โดยก่อสร้างถนนใหม่เลียบแนวเขตแดนแยกบึงสนอร์ ฝั่งกัมพูชา เข้าสู่จุดผ่อนปรนบ้านคลองกุดกระสือ โดยจะต้องก่อสร้างถนนห่างจากเขตแดนไม่น้อยกว่า 500 เมตร ตลอดแนวเป็นระยะทางประมาณ 2,000 เมตร ซึ่งกรณีดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตาม MOU ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวชายแดนทางบกร่วมกันเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ จากการเปิดจุดผ่อนปรนการค้า เป็นการส่งเสริมการค้าชายแดน ทำให้เศรษฐกิจชายแดนขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นการลดการลักลอบนำสินค้าเข้า และออกนอราชอาณาจักกรโดยผิดกกฎหมาย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นการลดปัญหาความหนาแน่นของการขนส่งสินค้าไปประเทศกัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ และจะได้หันมาส่งออกทางด้านอำเภอโคกสูงและในวันที่ 30 ตุลาคม 2562 กระทรวงที่เกี่ยวของจะประชุมอีกครั้งและได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว ไปให้ข้อมูลในกรณีที่จะเปิดจุดผ่อนปรนดังกล่าว
ส่วน นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ตามที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวกับความร่วมมือขับเคลื่อนเพื่อเปิดจุดผ่อนปรนแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่อยู่ระหว่างหลักเขตแดน ที่ 43-44 ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีปัญหาเส้นเขตแดนแต่อย่างใด และผู้นำระดับท้องถิ่นของทั้งสองฝ่ายได้ตรวจสอบสถานที่เปิดจุดผ่อนปรนแล้วเห็นชอบร่วมกัน บริเวณที่ตั้งจุดผ่อนปรนอยู่บนที่สาธารณประโยชน์ มีพื้นที่สามารถพัฒนาเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงสำหรับไทยและกัมพูชา นโยบายที่จะเปิดจุดผ่อนปรนชายแดนเพิ่มขึ้นเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างในภาพรวมเพื่อเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกัน อำนวยความสะดวกด้านการไป-มาหาสู่ ระหว่างประชาชน การสัญจร การท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า ปัจจุบัน ไทยให้ความสำคัญกับการเปิดจุดผ่อนปรน ที่บริเวณบ้านโอบายเจื่อน อ.โอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย กับ บ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแล้วในการติดต่อไปมาหาสู่กัน และการค้าสะดวกขึ้น
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
