ศรีสะเกษ-ผู้ว่าฯขอความช่วยเหลือแม่ทัพภาคที่ 2 สู้ภัยแล้ง

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข  

       อ่างเก็บน้ำแห้งขอดแล้ว 3 แห่งขณะผู้ว่าฯขอความช่วยเหลือแม่ทัพภาคที่ 2 สู้ภัยแล้ง ส่วนชาวนาต้นข้าวแห้งตายเตรียมทำนารอบ 2

           เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ฝนได้ทิ้งช่วงนาน มานานหลายสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว ส่งผลให้ไร่นาของชาวนาที่ต้นข้าวกำลังเริ่มโตเริ่มที่ที่จะเปลี่ยนสีจากสีเขียวขจีเป็นสีเหลือง เพราะว่าขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว บางแห่งต้นข้าวต้องยืนต้นแห้งตายแล้ว ขณะที่อ่างเก็บน้ำทั้ง 16 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ ระดับน้ำเริ่มลดลงเห็นได้อย่างชัดเจน โดยจากการสรุปผลระดับน้ำรายวันประจำวันที่ 16 ก.ค. 62 ของฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานศรีสะเกษ ระบุว่า ขณะนี้ ระดับน้ำของอ่างเก็บน้ำทั้งหมดทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษ มีน้ำสามารถใช้การได้เพียง 23.77 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยมีอ่างเก็บน้ำจำนวน 3 แห่งที่เริ่มแห้งขอดไม่มีน้ำสามารถใช้การได้เลย จำนวน 3 แห่งประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเค็ม อ.ราษีไศล -10.77 เปอร์เซ็นต์ อ่างเก็บน้ำห้วยซัน อ.เมืองศรีสะเกษ -0.44 เปอร์เซ็นต์ และอ่างเก็บน้ำหนองสิ อ.ขุนหาญ -2.28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรที่ต้องอาศัยน้ำจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งเพื่อทำการเกษตรได้รับผลกระทบอย่างหนัก

             นายวีระศักดิ์ วิจิต์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นมาเป็นประจำทุกปีและในส่วนของ จ.ศรีสะเกษ ตนได้พยายามรณรงค์ให้ประชาชนช่วยประหยัดในเรื่องการใช้น้ำ แต่ว่าที่เราเจอปัญหามี 2 จุดสำคัญคือที่ อ.ขุขันธ์และ อ.เมืองจันทร์ โดยในส่วนของ อ.ขุขันธ์ ตนได้ประสานงานกับกรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน ส่วน อ.เมืองจันทร์ ได้ขอให้กรมชลประทานได้ไปออกแบบเอาไว้เรียบร้อยแล้วในการช่วยเหลือแก้ไขการขาดแคลนน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และในเบื้องต้นนี้ ตนได้ประสานงานกับ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเสนอของบประมาณในส่วนของงบกลาง เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้ว ตนเชื่อว่า หากเราดำเนินการได้ครบทั้ง 3 จุด ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปได้แล้วประมาณ 1.5 เหลืออีก 1.5 หากครบทั้ง 3 จุด ตนเชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งของ จ.ศรีสะเกษ ได้อย่างแน่นอน

               ทางด้าน นางบุญช่วย ทองพิลา อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวนาบ้านหนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเริ่มทำนาปีมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งขณะนั้นมีฝนตกลงมาบ้างและตกติดต่อกันหลายวันครอบครัวจึงลงมือปรับพื้นที่นาและหว่านเมล็ดข้าวเปลือก จนเมล็ดข้าวงอกเงยเกิดเป็นต้นข้าวมาได้เดือนเศษ แต่แล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาฝนเกิดทิ้งช่วง ทำให้ขณะนี้ต้นข้าวเริ่มเหี่ยวเฉา บางจุดยืนต้นตายไปแล้ว ซึ่งถ้าหากฝนยังไม่ตกลงมาภายในอาทิตย์นี้ก็มีหวังที่จะได้ทำนารอบที่สองอย่างแน่นอน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/