อยุธยา – วัดสะตือ เปิดกราบไหว้ แก้บน หลวงพ่อโต

ภาพ/ข่าว : นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์

             วัดสะตือ เปิดให้สาธุชน ได้กราบไหว้ แก้บน หลวงพ่อโต พระพุทธไสยาสน์ ภายใต้มาตรการ ไทยชนะ

           เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูปริยัตยาธิคุณ เจ้าคณะอำเภอท่าเรือ เจ้าอาวาสวัดสะตือ ได้เป็นองค์ประธานในการประชุมสั่งการ มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ภายในวัดสะตือ โดยมี นายธนกฤติ ทองศิริ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองชำนาญการพิเศษอำเภอท่าเรือ นายพิมาน พุ่มพันธ์ม่วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ นายสำเนาว์ ศรีงาม สาธารณะสุขอำเภอท่าเรือ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมพร้อมเพรียงกัน

               พระครูปริยัตยาธิคุณ เจ้าคณะอำเภอท่าเรือ เจ้าอาวาสวัดสะตือ กล่าวว่า ทางวัดสะตือ ได้ทำการปิดวัดห้ามประชาชนเข้ามาประกอบกิจกรรมใดๆ อันที่จะเป็นการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19 มาตั้งแต่ ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาโดยได้ทำการตรวจสอบมาตรการ การป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19 ภายในวัดสะตือมาโดยตลอด และพร้อมเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์ เป็นวันแรกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 รวมถึงการอนุญาตให้ บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ตลาดนัดวันเสาร์ อาทิตย์ ได้มานำสินค้ามาลงตามปกติ แต่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบว่าด้วยมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 อย่างเคร่งครัด

               โดยทางวัดสะตือ ได้กำหนดให้ประชาชนที่เข้ามาภายในวัดสะตือจะต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย จะต้องผ่านจุดคัดกรอง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอ อสม.และอาสาสมัคร คอยให้บริการ และให้คำแนะนำการปฏิบัติ ลงทะเบียนด้วยลายมือ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ การสแกน แอพพลิเคชั่นไทยชนะ ล้างมือด้วยเจล แอลกอฮอร์ ตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องสแกน เพื่อสะดวกต่อการติดตาม ทุกจุดภายในวัดสะตือ การแก้บนหลวงพ่อโต พระพุทธไสยาสน์ ประชาชนจะต้องเว้นระยะห่าง คนละ 1.5 เมตร เพื่อลดความแอดอัดของประชาชนซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค หากมาผู้ป่วยปะปนอยู่ในกลุ่มของประชาชน อย่างไรก็ตามประชาชนที่เข้ามากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดสะตือ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ แอพพลิเคชั่น ไทยชนะ เพื่อสะดวกต่อการสอบสวนโรค

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/