ประจวบคีรีขันธ์-เพิ่มพื้นที่สีเขียว “ป่าครอบครัว” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านวลัย

ประจวบคีรีขันธ์-เพิ่มพื้นที่สีเขียว “ป่าครอบครัว” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านวลัย

ประจวบคีรีขันธ์-เพิ่มพื้นที่สีเขียว “ป่าครอบครัว” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านวลัย

ภาพ/ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 ที่ลานริมอ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน” ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม เพื่อประชาสัมพันธ์ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว ป่าชุมชนบ้านวลัยซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว 1 ใน 18 แห่งของ จ.ประจวบฯ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เผยแพร่องค์ความรู้ในการจัดการป่าในระดับครอบครัวและระดับชุมชน โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบกล้าไม้ประจำถิ่น และกล้าไม้ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง จำนวน 9,500 กล้าให้แก่ชุมชน พร้อมร่วมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และเยี่ยมชมพื้นที่แสดงและจำหน่วยสินค้าและบริการจากเครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือข่าย ทสม.โดยในท้องที่อำเภอหัวหิน มีป่าชุมชน จำนวน 4 แห่ง คือ ป่าชุมชนบ้านหนองเหียง ป่าชุมชนบ้านดอนเสือหมอบ ป่าชุมชนบ้านมะค่าสี่ซอง และป่าชุมชนบ้านวลัย

               นายองครักษ์ ทองนิรมล กล่าวว่า จ.ประจวบฯ มีพื้นที่ 4,008,477.58 ไร่ ในอดีตมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ คิดเป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 42.62 ของพื้นที่จังหวัด แต่ในปี 2565 พบว่าจังหวัดมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดลง เหลือร้อยละ 38.76 ของพื้นที่ ในการนี้จังหวัดต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด ด้วยแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้จากการเก็บสถิติการปลูกต้นไม้ “โครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” (forest.go.th) ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2566 พบว่า จ.ประจวบฯ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้มากที่สุดลำดับที่ 41 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูกจำนวน 3,472 คน จำนวน 981,067 ต้น ดังนั้น การจัดกิจกรรมในวันนี้จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการป่าชุมชนและการจัดการป่าในระดับครอบครัว เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า “ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” และขอเชิญชวนประชาชนร่วมสร้างป่าครอบครัว ลงทะเบียนบันทึกการปลูกต้นไม้ในโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ผ่านทางเว็บไซต์ plant.forest.go.th เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลูกต้นไม้ จำนวน 4,810,173 ต้น ตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัดต่อไป ซึ่งสามารถขอรับกล้าไม้ได้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!