ร้อยเอ็ด-หัวหน้าพรรคไทยรักกัน รุดให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง

ร้อยเอ็ด-หัวหน้าพรรคไทยรักกัน รุดให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง

ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน / อำนวย ระดาบุตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

ดร.พีระพงษ์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน รุดให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงปลูกกัญชาไว้ 2 ต้นเพื่อใช้ต้มยากินรักษาโรค ถูกตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับดำเนินคดี

          เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ดร.พีระพงษ์ ไพรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน และคณะทีมแพทย์แผนไทย เดินทางลงพื้นที่ บ้านเชียงใหม่ หมู่ที่ 1 ตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียงปลูกกัญชาไว้ 2 ต้นเพื่อใช้ต้มยากินรักษาโรคจนอาการดีขึ้น แต่ถูกตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับดำเนินคดี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง บุกจับกุม พร้อมต้นกัญชาจำนวน 2 ต้น ในข้อหา ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ (ประเภท 5) พ.ศ. 2522 ทั้งๆที่ปลูกไว้เพื่อต้มเป็นยารักษาอาการป่วย ของผู้ป่วยติดเตียง หลังได้รับทราบจากสื่อมวลชน ดร.พีระพงษ์ ไพลิน หัวหน้าพรรคไทยรักกัน และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยทีมแพทย์แผนไทย จึงเดินทางไปให้กำลังใจคุณตา ทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำการรักษาโรคความดัน โรคเบาหวาน โรคเบื่ออาหารและโรคอื่น ร่างกายอ่อนเพลียตลอดเวลา โดยมีภรรยาและลูกๆ คอยดูแลเป็นประจำ
          ดร.พีระพงษ์ ไพรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน กล่าวว่า ทางพรรคมีนโยบาย เสรีกัญชา ได้นำแพทย์แผนไทยไปให้คำแนะนำการใช้กัญชารักษาโรคอย่างถูกวิธี กรณีนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ ราษฎรหมู่ที่ 1 ต.เชียงใหม่ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ผู้ใช้กัญชารักษาโรคเก้าท์ ความดัน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ โรคไตและปลายประสาทชา จนหาย ทำให้ไม่เป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง จากนั้นคณะได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนสภ.เชียงใหม่ ขอทราบผลการดำเนินคดีนายไพโรจน์ ทิพบุญชู แล้วแลกเปลี่ยนความรู้ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ ในวันเดียวกัน คณะพรรคไทยรักกัน ได้เข้าพบนายอำเภอโพธิ์ชัยเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นด้านปัญหากัญชาที่ยังเป็นพืชเสพติด แต่กลับมีประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็นพืชเศรษฐกิจชาติ เป็นพืชรักษาได้ 300 โรคและเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อครัวเรือน โดยหัวหน้าพรรคไทยรักกันระบุว่า หากยังใช้นโยบายกัญชาทางการแพทย์ของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยมะเร็งที่มีมากถึง 216 คนต่อวันได้ การแก้ปัญหาจึงต้องปลดกัญชาออกจากยาเสพติดเสียก่อน จึงจะทำให้ประชาชนมีเสรีภาพ มีสิทธิในการรักษาและมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน มิเช่นนั้นการจับกุมผู้ป่วยหรือญาติที่ใช้กัญชารักษาชีวิตตัวเองก็จะถูกจับกุมเช่นนี้เรื่อยไป.

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!