ประจวบคีรีขันธ์-รมช. ลงพื้นที่ ประชุมรับฟัง ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน

ประจวบคีรีขันธ์-รมช. ลงพื้นที่ ประชุมรับฟัง ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน

ภาพ/ข่าว:ณัฐธภพ พันสาย

          เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 ม.ค.66 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประชุมรับฟัง ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด และพบปะสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประยูร พะมะ สหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนิตย์ ตั่นอนุพันธ์ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ และประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คน ให้การต้อนรับ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการนำที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช และป่าคลองกรูด และป่าสงวนแห่งชาติพุน้ำเค็ม ที่ได้รับมอบ มาเข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ระเบียบกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม
          โดยประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้แต่งตั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นอนุกรรมการและเลขานุการในคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดในรูปแบบของชุมชน เช่น สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตของผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน นอกจากนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังมีภารกิจหลักในการส่งเสริมแนะนำสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ระบบสหกรณ์ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของชุมชน
          ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2513 และวันที่ 13 สิงหาคม 2517 ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนที่เสื่อมโทรม คือในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช และป่าคลองกรูด-ป่าพุน้ำเค็ม อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย เนื้อที่ 156,078 ไร่ 1 งาน 53 วา โดยนำมาบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบสหกรณ์นิคม ดำเนินการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีนิคมสหกรณ์บางสะพานเป็นผู้รับผิดชอบการจัดพื้นที่ในพื้นที่นิคมสหกรณ์ พื้นที่สหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด มีเกษตรกรเป็นสมาชิกใน 2 อำเภอ คือบางสะพาน และบางสะพานน้อยรวม 10 ตำบล มีพื้นที่ 160,000 ไร่ มีเกษตรกร 7,000 กว่าราย ประกอบอาชีพในที่ดิน 9,000 กว่าแปลง ต่อมาปี 2562 สิ้นอายุสัญญาอนุญาตของกรมป่าไม้ ชาวบ้านจึงไม่มีสิทธิ์เข้าทำกิน ทางนิคมสหกรณ์จึงได้ประสานหมู่บ้านต่าง ๆ ทำประชาคมเพื่อทำเรื่องขออนุญาตใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามส่งหนังสือถึงกรมป่าไม้ ขอใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อขออนุญาตใช้เป็นหนังสือ ป.ส.23 ต่อมาได้มีมติคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่การแก้ไขปัญหาพื้นที่นิคมสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า ภายใต้การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.)” รมช.มนัญญา กล่าว
          จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปพบปะสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด จำนวน 3 หลังคาเรือน ได้แก่ บ้านนายลด วงศ์เณร บ้านนายวัน วงค์จันทร์ทอง หมู่ ที่ 6 ตำบลทองมงคล และบ้านนายลำดวน หนูยิ้มซ้าย หมู่ที่ 4 ตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเยี่ยมเยียนสถานที่ที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทองมงคล วัดทองมงคล โรงเรียนบ้านทองมงคล อ่างน้ำโป่งสามสิบ เป็นต้น ในพื้นที่ตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!