สมุทรปราการ-ดราม่าพระยืนรับบาตรออนไลน์ ชาวเน็ตติงเหมาะสมหรือไม่

สมุทรปราการ-ดราม่าพระยืนรับบาตรออนไลน์ ชาวเน็ตติงเหมาะสมหรือไม่

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์ 

ดราม่าพระยืนรับบาตรออนไลน์ ชาวเน็ตติงเหมาะสมหรือไม่

           ดราม่าหนักไลฟ์สดพระยืนรับบาตรออนไลน์ ชาวเน็ตถล่มไม่เหมาะสม ด้านเจ้าของร้านหลั่งน้ำตาชี้แจง ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ข้าวแกงทุกถุงทานได้จริงไม่เคยเวียนขายซ้ำ เปิดโอกาสให้คนป่วยติดเตียง คนไทยในต่างประเทศทำบุญ จากกรณีที่เพจข่าวสารเมืองปราการv2 ได้โพสต์คลิปวีดีโอความยาว 26 วินาที พร้อมกับระบุข้อความเอาไว้ว่า มิติใหม่แห่งการตักบาตรโดยที่ไม่ต้องลุกจากที่นอน อยากใส่บาตร ไม่ต้องไปถึงที่แล้วนะในขณะที่เลื่อนช็อปปิ้งของใน Tiktok (ติ๊กต๊อก) เพราะนอนไม่หลับ สิ่งนี้ทำฉันว้าวที่สุด ในตอน 6 โมงเช้าคือ การ live ขายของใส่บาตร พร้อมเขียนชื่อ -นามสกุล และใส่บาตรให้ ลูกค้าแค่โอนก็ได้ใส่บาตรแล้ว ไอเดียดีมาก ยุคนี้ใครไม่ปรับตัว อยู่ไม่รอดนะบอกเลย แล้วคือร้านขายดีจนสงสารพระ รับของไม่ทัน 5555 หลังจากที่เพจได้มีการโพสต์ลงไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ถึงความเหมาะสมว่าพระยืนรับบาตรแบบนี้ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ของที่ใส่บาตรมีการนำมาเวียนขายซ้ำหรือไม่ ซึ่งก็มีบางคอมเมนต์ที่เห็นด้วยกับการทำบุญออนไลน์แบบนี้ มองว่าดีที่ทางร้านเป็นสะพานบุญ

           ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ที่ 19 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ร้านขายของใส่บาตรในตลาดบางฆ้อง ถนนศรีสมุทร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบเป็นร้านขายข้าวแกงและของใส่บาตร โดยมี 2 สามีภรรยาไลฟ์สดขายข้าวแกงเป็นชุดใส่บาตรผ่านแอปพิเคชั่นติ๊กต๊อก โดยมีชาวติ๊กต๊อกให้ความสนใจโอนเงินซื้อชุดข้าวแกงใส่บาตรจำนวนมาก ซึ่งปกติทางร้านมีลูกค้าประจำเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศสนใจทำบุญออนไลน์ด้วย ทางร้านจะไลฟ์สดเปิดให้จองชุดใส่บาตรตั้งแต่ช่วงเวลา 05.30 – 07.00 น.โดยการเขียนชื่อนามสกุลคนที่ซื้อผ่านออนไลน์ใส่ไปในถุงทุกถุง และจะนิมนต์พระสงฆ์ที่เดินผ่านร้านเพื่อใส่บาตรและให้คนที่ทำบุญออนไลน์รับพรกับพระสงฆ์กันแบบสดๆ โดยที่ไม่มีการนำชุดใส่บาตรมาเวียนขายซ้ำ และ พระสงฆ์ไม่ได้ยืนปักหลักเพื่อรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย ด้านนาย วรพงศ์ ทัศนา อายุ 45 ปี เจ้าของรานข้าวแกงเฮียโก๋ เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายข้าวแกงใส่บาตรที่ตลาดแห่งนี้มาเกือบ 9 ปี เมื่อเดือนที่แล้วตนไลฟ์สดอยู่ที่ลูกค้าถามตนว่าทำอะไร ตนเลยบอกว่ากำลังทำกับข้าวใส่บาตรส่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบางฆ้อง ลูกค้าเลยขอฝากทำบุญด้วยเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงไม่สามารถออกมาทำบุญได้ ตนเลยมองว่าเป็นการดีที่เป็นสะพานบุญให้คนอื่นซึ่งแนวคิดนี้ตนคิดเองไม่ได้ลอกเลียนแบบใครทำด้วยใจซื่อบริสุทธิ์ ตนไลฟ์สดขายชุดใส่บาตรแบบนี้มาได้เดือนกว่าแล้ว โดยมีลูกค้าประจำและขาจรในออนไลน์หลายคน วันนึงจะขายผ่านออนไลน์ได้ประมาณ 60 ชุด ขายราคาปกติชุดละ 40 บาท แต่ละชุดจะมีแกงหนึ่งถุง ข้าวสวยหนึ่งถุง ขนมหวาน และน้ำดื่ม

             ส่วนประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ตนมองว่าทุกคนมีสิทธ์ที่จะคิด ช่องทางของตนเหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง คนที่ไม่มีเวลา และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศส่วนคนที่มองตนในแง่ร้ายสักวันเขาจะเข้าใจเองเพราะตนทำด้วยใจซื่อบริสุทธ์ ตนทราบดีว่าการลงโซเชียลเป็นดาบ 2 คม ที่มีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าอ่านคอมเมนต์แล้วกระทบต่อจิตใจตนและคนในครอบครัว คมชมก็มี คนด่าก็เยอะ ตนเข้าใจดีว่าไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ซึ่งบางวันที่ขายของไม่หมด ตนก็ไปทำทานนำไปให้คนจร คนไร้บ้านในย่านนี้ เพื่อเป็นการทำทาน นาย วรพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า พระที่มารับบาตรที่ร้านตนเดินบิณฑบาตผ่านร้านตนทุกวัน วันละ 6-8 รูปพอเดินผ่านมาตนก็นิมนต์เอาไว้ ไม่ได้จำเพราะเจาะจงว่าจะต้องใส่พระรูปไหน พระท่านไม่ได้นั่งหรือยืนรอรับบาตรที่หน้าร้านอย่างที่โลกโซเชี่ยวต้องข้อสังเกต และร้านตนไม่เคยนำชุดใส่บาตรมาวนขายใหม่เพราะตนรู้ดีว่าถ้าทำแบบนั้นลูกค้าและตนย่อมไม่สบายใจ หลังจากที่มีการเผยแพร่ไปในโลกโซเชี่ยวยอมรับว่ามีผลกระทบ บางคนด่าตนแบบเสียหายโดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงและพระสงฆ์ที่เคยมารับบาตรบางรูปไม่กล้าเดินผ่านร้านเพราะกลัวชาวพุทธไม่สบายใจ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!