ประจวบคีรีขันธ์-ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้รถเริ่มแน่น

ประจวบคีรีขันธ์-ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้รถเริ่มแน่น

ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี

                    ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้รถเริ่มแน่น จราจรต้องใช้ระบบแมนนวลควบคุมสัญญาณไฟเร่งระบายรถ แต่ยังไร้ยอดผู้เสียชีวิต

                  เวลา 10.00 น. วันที่ 10 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบรายงานสภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ฝั่งขาล่องใต้ มุ่งสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น และติดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อจอดรอสัญญาณไฟแดงบริเวณแยกต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงใช้ระบบควบคุมสัญญาณไฟด้วยมือ เพื่อเร่งระบายรถบนถนนเพชรเกษมสายหลักให้นานกว่าปกติสลับกับถนนสายรองที่มีประชาชนในพื้นที่ใช้สัญจรข้ามไปมาระหว่างตลาดตัวเมือง และ นอกชานเมือง ในขณะที่ตำรวจทางหลวงใช้รถติดสัญญาณไฟวับวาบๆวิ่งสำรวจตามเส้นทางและคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเวลารถเกิดปัญหาติดขัด
                   นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ยังได้มีการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก อาทิเช่น หมวกกันน็อค ใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย และ อื่นๆฯลฯ ส่วนแขวงทางหลวงประจวบได้ดำเนินการติดตั้งกาดเลนกั้นบริเวณร่องกลางถนนเพื่อลดความรุนแรงลงในจุดที่รถมักมีการเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ป้องกันมิให้รถที่เกิดอุบัติเหตุตกลงไปชนกับต้นไม้ในร่องกลางถนนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีอัตรายอดผู้เสียชีวิตลดจำนวนลงกว่าปีที่ผ่านมา และขณะนี้ยังไม่มียอดผู้เสียชีวิต
                  ด้าน พ.ต.ท.รณภูมิ โกมลกิติสกุล สารวัตรจราจร สภ.เมืองประจวบฯ กล่าวว่า สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษมขณะนี้ มีปริมาณรถฝั่งขาล่องใต้จำนวนมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้ตามจังหวะสัญญาณไฟที่ควบคุมด้วยมือ นอกจากนี้ตามยูเทิร์นจุดเสี่ยงต่างๆได้ดำเนินการปิดไปแล้วบางจุด และได้ดำเนินการก่อสร้างทางลอดใต้อุโมงค์ถนนเพชรเกษมเพื่อให้รถเล็กสามารถใช้เป็นเส้นทางข้ามถนน โดยหลีกเลี่ยงจากสายหลักเพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จไปแล้วบางจุดที่รถสามารถวิ่งได้
                   สำหรับการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร ใน 10 ข้อหาหลักตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องมีกล้องวงจรปิดประจำตัว และมีกล้องวงจรปิดที่มองเห็นในภาพรวม ในขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพื่อความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid 19 ในรอบ 3 ก็อยากจะให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเดินทางไปในเส้นทางที่มีคนพลุกพล่าน และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิต หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไปจนถึง 1,000 บาท ตามแต่ละข้อหา
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!