ปราจีนบุรี- เตรียมแถลงจับ 3 คนร้ายใช้แก๊สตัดตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์

ปราจีนบุรี- เตรียมแถลงจับ 3 คนร้ายใช้แก๊สตัดตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

เตรียมแถลงจับ 3 คนร้ายใช้แก๊สตัดตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ตลาดไทยประคองกวาดเงินสดกว่า 7 แสนบาท

                    เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 7 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานเหตุ กรณีจาก ที่คนร้ายใช้แก๊ส เจาะตู้ ATM ธ.ไทยพาณิขย์ สาขากบินทร์บุรี ที่ตลาดไทยประคอง ม.8 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  โดยคนร้าย ใช้แก๊สตัดด้านหลังของตู้ได้รับความเสียหาย และ ได้นำกล่องใส่เงินสดออกไปจากตู้ได้ ได้เงินสดไปจำนวน 758.900 บาท แต่ยังมีเงินเหลือติดอยู่ในตู้ที่คนร้ายเอาออกไม่ทันอีก 2,218.60บาท ก่อนที่จะหลบหนีไปตามเส้นทางสาย 304 มุ่งหน้า พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลาประมาณ ตี 2 ของคืนวันที่ 4 ก.พ. 2564
                    จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเวลา 01.57 น. ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตู สีขาว ไม่ทราบรุ่น ขับมาทางถนนสาย304 จอดเทียบข้างตู้ ATM จากนั้นคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน ศีรษะล้าน แต่งกายคล้ายพนักงานเดินลงมาจากรถทำทีเหมือนจะกดเงิน ต่อมาได้มีคนร้ายชายอีก 2 คนเดินออกมาจากรถ และเข้าด้านหลังของตู้ ATM พร้อมใช้แก๊สเจาะตู้ ส่วนชายอีกคนคอยดูต้นทางไว้

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีทั้งหมด 4 คน รู้ความเคลื่อนไหวและเตรียมการมาอย่างดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 57 นาที ในการก่อเหตุ ก่อนจะขับรถหลบหนีออกไป พร้อมกับกล่องใส่เงินสด และขับหนีไปตามถนนสาย 304 นั้น  ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว โดย 2 คนแรกเมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ (7ก.พ.) สามารถจับกุมได้ที่ จ.ลำปาง และอีก 1 คนล่าสุดจับได้ที่ จ.นครสวรรค์ กำลังนำตัวมาที่ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เตรียมนำมาแถลงสื่อมวลชน พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในเวลา 12.00 น.วันนี้ (7ก.พ.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ผช.ผบ.ตร./รักษาราชการแทนผบ.ภ.2 จะแถลงรายละเอียดผลกดารจับกุมทั้งหมด หน้า สภ.กบินทร์บุรี
                   วันที่ 7 ก.พ.64 ที่ สภ.กบินทร์บุรี พล.ต.ท.รอยอิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรก.ภ.2 ร่วมกับภวจ .ปราจีนบุรี แถลงข่าว จับผู้ต้องหาวัดตู้ATMเมื่อวันที่ 4 ก.พ 63 เวลาประมาณ 6:40 น.สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งว่าตู้ ATMของธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าตลาดไทยประคองต.กบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ถูกถอดปลั๊กและถูกรถชนเกิดความเสียหาย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยของคนร้ายถอดปลั๊กไฟของตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ออกนะมีการงัดวิธีการใช้แก๊สตัดเหล็กตู้ ATM ด้านหน้าของตู้ atm ถูกตัดบริเวณที่เสียบกุญแจแล้วทางด้านหลังถูกตัดออกเป็นสี่เหลี่ยม แล้วคนร้ายได้เรื่องเอาเงินได้ไม่ทราบจำนวนเงิน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 01.00 น.พบรถยนต์กระบะ toyota สีขาวรุ่น Z-EDlTlON มีผ้าใบสีดำปิดกระบะหลัง ขับมาจอดใกล้ตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ชายคนที่ 1 รูปร่างอ้วนศรีษะล้าน สวมเสื้อผ้าคล้ายชุดพนักงานโรงงาน มีแถบสะท้อนแสงบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของเสื้อ ปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัย (ทราบชื่อภายหลังนายสมนึกจันทร์โฉม) ชายคนที่ 2 และคนที่ 3 รูปร่างผอม สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัยเช่นกัน (ทราบชื่อภายหลังคือนายธนจิตต์ โพธิลา และนายนพรัตน์ ทองชื่น) โดยนายสมนึก จันทร์โฉม กล่าวว่า เมื่อลงจากรถแล้วเดินไปที่ตู้ ATMของธนาคารธนชาต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ CJ ใกล้ที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้สำรวจดูพื้นที่โดยรอบหลังจากนั้นได้เดินกลับมาที่รถ จากนั้นนายธนจิตต์ และนายนพรัตน์ จึงได้ลงจากรถ จะได้ช่วยกันยกอุปกรณ์ที่อยู่ท้ายรถกระบะลงจากนั้นนายสมนึก เป็นผู้ใช้แก๊สตัดตู้ ATM โดยมีนายธนจิตต์และนายนพรัตน์ คอยดูต้นทางและช่วยหยิบอุปกรณ์ในการตัด ใช้เวลาตัดด้านหน้าประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นได้ไปตัดด้านหน้าอีก 20 นาที จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.นายสมนึกกับพวกได้เก็บอุปกรณ์ขึ้นรถแล้วขับรถไปตาม 304 ถึงหน้าไปทางอ. ศรีมหาโพธิ์ ใช้เวลาก่อเหตุ 1 ชั่วโมง 17 นาที จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี คนร้ายใช้ถนน 304 มุ่งหน้าเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม
จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นใช้เส้นทางถนน 331 เลี้ยวขวาที่แยกหนองปรือ ขึ้นมอเตอร์เวย์ถนนหมายเลข 7มุ่งหน้าจ.สมุทรปราการ
                      ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เทคโนโลยีการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายก่อเหตุคือนายสมนึก จันทรโฉม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับนายสมนึกจันทร์โฉม ศาลกบินทร์บุรีออกหมายจับที่ 7 /2564 ลงวันที่ 5 กพ. 64 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยกระทำการอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อหลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยได้กระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ใช้เทคโนโลยีทางการสืบสวนจนทราบว่า นายสมนึกจันทร์โฉม ได้เดินทางไปที่ จ.ลำปาง จึงเดินทางไปจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าที่จังหวัดลำปาง

จากการสอบปากคำนายสมนึกให้การรับสารภาพว่า ตนเองกับนายฑนจิตต์ และนายนพรตน์ใช้แก๊สตัดตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่บริเวณหน้าตลาดไทยประคอง จริง ได้เงินสดไปประมาณ 70,000 บาท จากนั้นเดินทางไปที่ จ. สมุทรปราการ เพื่อจะนำอุปกรณ์ไปเก็บที่บ้านแม่ แล้วเดินทางไปดูงานที่จะรับทำบริเวณใกล้กับวัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ นายนพรัตน์ จะเดินทางกลับบ้านที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
                    จึงได้ขอแยกทางใช้รถประจำทาง ส่วนนายสมนึกและนายนพรัตน์ได้เดินทางไปที่ จ. ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับนายสมจิตต์ โพลา และนายนพรัตน์ ทองชื่น ต่อมาศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับบุคคลทั้งสองในข้อหาเช่นเดียวกันกับนายสมนึก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนหาตัวนายธนจิตต์ จนพบจึงได้จับกุมตัวที่จ. ลำปาง และสืบสวนหาตัวนายนพรัตน์ จนพบจึงได้จับกุมตัวที่ จ.นครสวรรค์  จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายสมนึก นายธนนจิตต์ และนายนพรัตน์ มายังสภ. กบินทร์บุรี และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภกบินทร์บุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!