นครปฐม-“พม. เราไม่ทิ้งกัน” รมว.พม. นำทีม One Home พม.

ภาพ/ข่าว:สมคิด พรมมี

                   “พม. เราไม่ทิ้งกัน” รมว.พม. นำทีม One Home พม. ลงพื้นที่ จ.นครปฐม เร่งช่วยครอบครัวกลุ่มเปราะบางและคู่แม่ลูกในสถานการณ์โควิด-19

                      วันนี้ (18 ก.ค. 63) เวลา 09.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ทีม One Home พม. จังหวัดนครปฐม , พันโท ดร.สินธพ แก้วพิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบาง จำนวน 6 ครอบครัว ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และเยี่ยมให้กำลังใจคู่แม่ลูก จำนวน 7 ราย ที่อาศัยในบ้านเอื้ออาทรนครปฐม พระประโทน 1 และ 2 โดยมอบถุงยังชีพ นมกล่อง นมอัดเม็ดจิตรลดา หน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์
                จากนั้นลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจนักเรียน จำนวน 11 ราย ตามโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ จังหวัดนครปฐม ประจำปี 2563 และเป็นประธานการประชุม ทีม One Home พม. จังหวัดนครปฐม จำนวน 6 หน่วยงาน เพื่อติดตามและขับเคลื่อนงานช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายเปราะบางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ณ เทศบาลตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
                     นายจุติ ไกรฤกษ์ กล่าวว่า ด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) ได้ส่งผลกระทบให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างทั่วทุกพื้นที่ของประเทศต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้บ้าน ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือให้ถึงมือกลุ่มเปราะบางโดยเร็วที่สุด เพราะปัญหาความเดือดร้อนรอไม่ได้ และเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งวันนี้ กระทรวง พม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อเร่งช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบาง จำนวน 6 ครอบครัว ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและมีฐานะยากจน ประกอบด้วย เด็กและเยาวชนที่กำลังเรียนหนังสือ คนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย ทางจิตใจหรือพฤติกรรมทางสติปัญญา ทางการเรียนรู้ และทางการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง คนว่างงาน และคนตกงาน เป็นต้น อีกทั้งไม่มีบ้านเป็นของตนเอง โดยต้องอาศัยในที่ดินผู้อื่น เนื่องจากบ้านถูกธนาคารยึด และที่อยู่อาศัยมีสภาพเก่าทรุดโทรมและไม่ถูกลักษณะ
                       ทั้งนี้ ตนได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมกรอบ ถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมทั้งมอบเงินสงเคราะห์ต่างๆ สำหรับเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น รวมทั้งประสานความช่วยเหลือกับหน่วยงานในพื้นที่สำหรับการซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคงและเหมาะสมกับกลุ่มเปราะบาง การศึกษาอย่างต่อเนื่องสำหรับเด็กและเยาวชน และการส่งเสริมอาชีพและทุนประกอบอาชีพเพื่อรองรับอาชีพใหม่หลังวิกฤติโรโควิด-19 เป็นต้น อีกทั้งมอบหมายให้ ทีม One Home พม. จังหวัดนครปฐม หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ เพื่อร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป
                     นายจุติ กล่าวต่อไปว่า จากนั้น ได้เดินทางลงพื้นที่ ณ เทศบาลตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียน จำนวน 11 ราย ตามโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลัง จบการศึกษาภาคบังคับ จังหวัดนครปฐม ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นโครงการที่ให้การช่วยเหลือนักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับที่มีฐานะยากจนและขาดโอกาสในการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น ให้มีทักษะด้านอาชีพหลังจบการศึกษาภาคบังคับก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ในฐานะ “แรงงานฝีมือ” โดยแบ่งการฝึกอาชีพออกเป็น 1) ช่างไฟฟ้าอุตสาหกรรม จำนวน 9 คน และ 2) ช่างไม้เครื่องเรือน (เฟอร์นิเจอร์) จำนวน 2 คน ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างมีคุณภาพและเป็นอนาคตที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/