อุบลราชธานี-ผู้ป่วยจิตเวชทำร้ายร่างกายผู้หญิง จนท.ตำรวจเข้าระงับเหตุถูกฟันเลือดอาบ

ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดอุบลราชธานี
เครดิตภาพ : จนท.ชุดจับกุม สภ.ตระการพืชผล

               วันนี้ ( 17 พ.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวของเราได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.ศรชัย สู่บุญ รองสว.(สอบสวน) สภ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ว่า เมื่อวานนี้ ( 16พ.ค.67) เวลา 14.40 น. ได้รับแจ้งเหตุ มีชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กระท่อมนาไม่มีเลขที่ บ้านดอนตะมุน หมู่ 9 ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง
                เมื่อไปถึง พบชายวัยกลางคน ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นาย ธ.(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี เป็นชาวบ้านดอนตะมุน หมู่ 9 ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในมือถือมีดพร้าอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง และพบว่า มีผู้หญิง (ขอสงวนข้อมูล) ถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตระการพืชผล จึงได้ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงคนดังกล่าว จากนั้นได้เกลี้ยกล่อมให้นาย ธ.วางอาวุธ(มีดพร้า) และให้อยู่ในความสงบ แต่นายธ.กลับคลั่งขึ้นมาอีก ถืออาวุธไล่ฟันเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามระงับเหตุด้วยการใช้ไม้ง่าม เพื่อทำการจับกุม แต่ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธมีดพร้า ฟันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จำนวน 2 ครั้ง แต่ เจ้าหน้าที่ถือโล่ป้องกันไว้ได้ แต่พอผู้ต้องหาใช้มีดพร้าฟันอีกเป็นครั้งที่ 3 ปรากฏว่า มีดพร้าถูกโล่ แล้วแฉลบไปถูกบริเวณศีรษะทางด้านหลัง (ต้นคอ) ของ ดาบตำรวจนิวัฒน์ กุลโท จนเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดไหลอาบร่างไปทั้งตัว ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลตระการพืชผล แพทย์ได้ทำการรักษาอาการดีขึ้น จึงอนุญาตให้กลับไปรักษาและพักผ่อนที่บ้านได้ ส่วนนาย ธ. ผู้ต้องหา ถูกจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ
                จากเหตุการณ์ดังกล่าว นาย ธ. รับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจริง และ จากการสอบสวน นาย ธ. ให้การไม่ค่อยเป็นประโยชน์ และ ในเบื้องต้น ขณะเสนอข่าวนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้นายธ.เกิดการคลุ้มคลั่งจนก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าทั้งผู้หญิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นาย ธ.ได้รับทราบ
                พ.ต.อ.อุทัย ปุชิน ผกก.สภ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า คดีนี้ ทราบมาว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยรักษาตัวและรับประทานยาจากโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ มาก่อน ส่วนการดำเนินคดีก็คงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป