นครปฐม-“หลวงพี่น้ำฝน”ตอบชัด รับดูแลน้องแคน ส่งเรียน ผลักดันด้านดนตรีเต็มที่ ส่วนพ่อไปแก้ปัญหาของตัวเอง

นครปฐม-“หลวงพี่น้ำฝน”ตอบชัด รับดูแลน้องแคน ส่งเรียน ผลักดันด้านดนตรีเต็มที่ ส่วนพ่อไปแก้ปัญหาของตัวเอง

ภาพ-ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน
บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน

                   พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยหลังได้คุยกับ พ่อน้องแคน ยืนยันชัดพร้อมส่งเสริมสนับสนุนน้องแคนทางด้านการศึกษาให้เข้าโรงเรียนประจำมีชื่อในพื้นที่ และพร้อมส่งเสริมด้านดนตรี ให้มีความสามารถอีกด้านโดยให้อดีตมือกีตาร์ “โต กะลา” มือโซโล่วงกะลา จัดซ้อมให้เข้มข้น ส่วนพ่อต้องไปแก้ปัญหาของตัวเองให้จบก่อน ทั้งเรื่องคดีและปัญหาการเงิน โดยน้องแคนตื่นเต้นที่ได้เห็นห้องอัดเสียงและเครื่องดนตรีในสตูดิโอ ด้านพ่อขอกลับไปทบทวนว่าจะส่งน้องแคนมาอยู่ด้วยหรือไม่และเตรียมเดินหน้าขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความให้เข้ามาช่วยเหลือด้านกฏหมายในการดูแลบุตรชายให้ชัดเจนอีกต่อไป
                    วันที่ 4 พฤษภาคม 67 ที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายอนุชา พรมทองดี อายุ 52 ปีบิดาได้มาพร้อมกับ น้องสียงแคน อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งตกเป็นประเด็นข่าวหลังจาก มีผู้ใช้สื่อโซเชียล Tiktok ได้โพสต์คลิปที่น้องเสียงแคนนั่งเล่นดนตรีอยู่ในตลาดนัดย่านรามอินทรา โดยมีป้ายข้อความระบุว่าแม่เสียชีวิตและถูกโกงเงินประกันชีวิตความยากลำบาก จากนั้นมีสื่อหลายแขนงได้เข้าติดตามเรื่องดังกล่าว กระทั่งทราบว่ามีปัญหาภายในครอบครัวหลายเรื่อง จากนั้นไม่กี่วัน นายอนุชา ได้มีการโพสต์คลิปลงสื่อ TikTok ระบุว่า นักข่าวท่านใดที่แจ้งว่าหลวงพี่น้ำฝน จะเข้ามาช่วยเหลือขอให้ดำเนินการช่วยเหลือตนเองและลูกชายเนื่องจากรถที่ใช้ขับขี่อยู่ทุกวันไม่ได้ส่งค่างวดมาหลายเดือนน่าจะถูกไฟแนนซ์ตามยึดอีกไม่นาน กระทั่งเป็นประเด็นทวงถามถึงการแสดงการช่วยเหลือจากหลวงพี่น้ำฝน ในหน้าข่าวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ได้เดินทางเข้ามาพบกับ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เพื่อเข้าขอความช่วยเหลือตามที่ได้มีการประกาศไปตามสื่อโซเชียล
                     โดยนายอนุชา (บิดา) และน้องแคน ได้เข้ากราบแจ้งปัญหาต่อหลวงพี่น้ำฝน และได้แจ้งว่าประสบปัญหาตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งตอนนี้อยากจะฝากให้น้องแคนเป็นลูกบุญธรรมของหลวงพี่น้ำฝน ส่วนตัวเองก็อยากจะหางานทำเนื่องจากติดปัญหาไปสมัครงานไม่ได้เพราะมีกำไรข้อเท้า em ติดตัวอยู่ รวมถึงมีคดีถูกฟ้องล้มละลาย หลายแห่งจึงปฏิเสธการรับงานทำให้ไม่มี เงินในการจ่ายค่าห้อง และดำรงชีพ ตอนนี้ประสบปัญหาอีกเรื่องคือน้องแคนมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นต้องมีการส่งตัวให้แพทย์ตรวจและทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง หลวงพี่น้ำฝนได้สรุปว่า ในเบื้องต้นสำหรับน้องแคน หากมีความประสงค์จะให้ทางวัดไผ่ล้อมดูแลก็ยินดี ทราบว่าน้องกำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หากมาอยู่ที่วัดไผ่ล้อมก็จะมีการดำเนินการประสานนำเข้าโรงเรียนเรียกว่าชั้นดีมีชื่อและส่งเสียให้เรียนอย่างเต็มที่ ส่วนความสามารถพิเศษในเรื่องดนตรี ก็มีห้องอัดมีครูเพลง มีนักดนตรีเช่น “โต กะลา” ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงและมือกีตาร์ของวงกะลา มาช่วยในการอัดเสียงและฝึกสอนให้เป็นอย่างดีแน่นอน ซึ่งคิดว่าหากสามารถนำไปอยู่ที่โรงเรียนประจำได้ และพักวันจันทร์ถึงศุกร์ ที่โรงเรียนส่วนเสาร์อาทิตย์ให้มาพักอยู่กับพระที่วัดไผ่ล้อมก็จะได้มีการขัดเกลาทั้งทางด้านวิชาการ การดนตรี และการวางมารยาทในสังคมด้วย
                  “ตอนนี้อาตมาขอตั้งเป้าในการช่วยเหลือน้องแคนเป็นหลักก่อน เพราะน้องน่าสงสารและคิดว่าจะต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากผู้ใหญ่ ส่วนตัวพ่อก็ควรจะไปแก้ปัญหาในเรื่องคดีต่างๆที่พัวพันอยู่กับตัวเองต้องแยกส่วนกันให้ชัดเจน เพราะไม่ทราบว่าก่อนที่จะมาถึงมือไปมีคดีเรื่องอะไรมาบ้าง และหากจะมาขอทำงานอยู่ที่วัดไผ่ล้อม ก็ยินดี แต่ขอให้มีการไปแก้ปัญหาในคดีต่างๆให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยมานั่งคุยกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ตรงนี้หากมีการแก้ไขปัญหาจริงๆเชื่อว่าแก้ได้ไม่ยาก” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
                  หลวงพี่น้ำฝนกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องนี้อาตมาอยากฝากให้เห็นถึงปัญหา ว่าเกิดจากอะไรซึ่งเมื่อมีคนมาบอกเรื่องนี้กับอาตมาในฐานะที่เป็นพระสงฆ์ ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้หากโยมมีความเดือดร้อน เพราะเป็นกิจของสงฆ์ในเรื่องของสาธารณะสงเคราะห์ และศึกษาสงเคราะห์ อีกส่วนอาตมา เกิดมามีชีวิตที่ยากลำบากกว่าโยมสองคนนี้มาก เพราะเกิดในดงสลัม หาเช้ากินค่ำ และต้องต่อสู้ชีวิตมาตั้งแต่ยังเด็ก เรื่องนี้ถือว่าเมื่ออาตมามีความพร้อมที่จะช่วยญาติโยมได้ สะท้อนเห็นถึงชีวิตตัวเองเมื่อวัยเด็กได้ ก็ยินดีที่จะสงเคราะห์ส่งเสริมผลักดันให้เด็กคนนี้มีความก้าวหน้าและเป็นคนดีในสังคมต่อไป แต่ขอย้ำว่าส่วนของพ่อต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน

                   จากนั้นพี่น้ำฝนได้พา น้องแคนและพ่อ ไปชมห้องอัดและฝึกซ้อมดนตรี ภายในวัดซึ่งน้องแคนมีท่าทีตื่นเต้นและสนใจกับเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ต่างๆที่มีอยู่ในห้อง โดย หลวงพี่น้ำฝนได้แจ้งว่านี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่วัดไผ่ล้อมโดยมูลนิธิหลวงพ่อพูล มีการ ส่งเสริมและผลักดันด้านการดนตรีการอนุรักษ์เพลงลูกทุ่ง รวมถึงสร้างเยาวชนให้มีความสามารถที่ถนัดนำไปสู่การสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำมาอย่างยาวนาน รวมถึงยังมีการเลี้ยงดูนักกีฬามวยไทยซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนเหมือนกัน และทุกคนก็ได้รับการดูแลส่งให้เรียนหนังสือและมีสวัสดิการในการดำรงชีพนี่คือกิจกรรมที่วัดไผ่ล้อมดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
                   ด้านนายอนุชา กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามากราบเรียนหลวงพี่น้ำฝนถึงปัญหาซึ่งเห็นแล้วว่าท่านก็พร้อมที่จะส่งเสริมผลักดันน้องแคนให้ได้มีพัก ที่เรียนหนังสือและเห็นศักยภาพของท่านว่าสามารถส่งเสริมให้น้องแคนได้เดินตามรอยฝันได้อย่างชัดเจน ส่วนทางตนเองหลวงพี่และว่าให้ไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงก่อนแล้วค่อยมาคุยถึงการหางานทำหรือวางแผนชีวิตต่อไป ซึ่งตอนนี้ตนเองขอกลับไปตัดสินใจอีกครั้งว่าจะให้น้องแคนกลับมาอยู่กับหลวงพี่น้ำฝนตามที่ท่านได้แจ้งไว้หรือไม่อีกครั้งหนึ่ง

                 ส่วนในเรื่องของการที่จะมีญาติพี่น้องเข้ามายื้อไม่ให้ตนเองได้ดูแลน้องแคน ก็ถือว่าต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลฎีกา และขอบอกว่าตนเองและบุตรชายได้มีการคุยหารือกันแล้วในเรื่องนี้ โดยจากนี้จะไปขอความช่วยเหลือจากสภาสภาทนายความในด้านข้อกฎหมายในสิทธิการดูแลน้องแคน ให้ได้ชัดเจนอีกครั้ง และจะมีการตัดอีกทีนึง

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!