ประจวบคีรีขันธ์-สลด..!!หนุ่มขี่รถ จยย.ไปเที่ยวงานวัด เจอรถ จยย.ตัดหน้า ชนกระเด็น 10 ล้อเหยียบซ้ำดับทั้งคู่

ภาพ-ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

                 เมื่อเวลา 21.28 น. วันที่ 22 เมษายน 2567 ร.ต.ท.นนทนันท์ สิงหนาท พนักงานสอบสวน สภ.สามกระทาย รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกัน มีบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต บนถนนเพชรเกษม ฝั่งล่องใต้ บ้านนาวัลเปรียง ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจทางหลวงกุยบุรี และกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กลล 38 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้ามีรอยชนพังยับ
               ข้างรถพบร่างชายคนขับขี่ ทราบชื่อต่อมาว่า นายเทิดศักดิ์ ยอดเจริญชัย อายุ 28 ปี ชาวตำบลไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ นอนไม่หายใจ ซึ่งขณะนั้น มีรถของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กลับจากส่งคนป่วยมาประสบเหตุ จึงได้ลงมาช่วยเหลือ และร่วมกับกู้ภัยทำการปั๊มหัวใจ (CPR) ให้กับนายเทิดศักดิ์ ซึ่งใช้เวลากว่า15 นาที ก็ไม่เป็นผล ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้
นอกจากนี้ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร บนถนนเลนซ้าย พบร่างชายคนหนึ่ง นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนน มีชิ้นส่วนของกะโหลกและมันสมองกระจายเกลื่อนบนถนน จนจำใบหน้าเดิมไม่ได้ เนื่องจากถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่เหยียบเสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อต่อมาว่า นายพัชรพล แซ่ลี้ อายุ 15 ปี
                ห่างออกไปด้านหน้าอีกประมาณ 200 เมตร พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 71-0789 เพชรบุรี จอดอยู่ไหล่ทาง ที่ใต้รถบริเวณล้อหน้าซ้าย พบซากรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง ติดอยู่ มี่ร่องรอยการลากมากว่า 200 เมตร จนสภาพพังยับเยิน ซึ่งเป้นรถของนายพัชรพล ส่วนโชเฟอร์สิบล้อ ทราบชื่อว่า นายสมประสงค์ หลิ่มมณี อายุ 62 ชาวอำเภอเมือง จ.ชุมพร ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่อยู่
                 สอบถามนายสมประสงค์ โชเฟอร์สิบล้อเล่าว่า ขณะตนเองขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถจักรยานยนต์ (ฮอนด้า เวฟ สีแดง)ของนายพัชรพลขับขี่ออกมาจากซอย ขึ้นมาบนไหล่ทาง ตัดหน้าจักรยานยนต์ของนายเทิดศักดิ์อย่างกะทันหัน ทำให้รถจักรยานต์ของนายเทิดศักดิ์ชนรถของนายพัชรพบอย่างแรง จนรถและนายพัชรพลผู้ขับขี่กระเด็นไปใส่ด้านหน้ารถบรรทุกสิบล้อในระยะกระชั้นชิด จึงชนเข้าอย่างจัง และเหยียบร่างของนายพัชรพลเสียชีวิตคาที่ และลากรถจักรยานยนต์ติดไปใต้ท้องรถไปไกลดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป