ลพบุรี-ขวัญกระเจิง..!!โดดน้ำเหยียบหัวศพ..โผล่พรวดในคลองอาถรรพ์..!!

ลพบุรี-ขวัญกระเจิง..!!โดดน้ำเหยียบหัวศพ..โผล่พรวดในคลองอาถรรพ์..!!

ภาพ-ข่าว:กฤษณ์ สนใจ

            เด็กชาย 8 คน ชวนกันไปเล่นน้ำในคลองหน้าฝายน้ำล้น ในวันหยุดต้องขวัญกระเจิง เมื่อโดดไปเหยียบหัวคนจมน้ำ เพื่อนๆ ยังคาใจใช้มือจับควานใต้น้ำโดนหัวศพโผล่พรวดขึ้นจากน้ำ ต่างคนต่างโกยอ้าว รุดแจ้งผู้ปกครอง สอบถามยังปากคอสั่น ชาวบ้านลืออาถรรพ์คลองเส้นนี้กลืนชีวิตคนมานับไม่ถ้วน
           เวลา 15.15 น. วันที่ 14 ส.ค. 2566 พ.ต.ท.เศรษฐา สาสระนันท์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านหมี่ ลพบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ว่ามีผู้เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ หน้าฝายน้ำล้นกระเบากัก หมู่ที่ 8 ต.ดอนดึง อ.บ้านหมี่ ลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บ้านหมี่ และหน่วยกู้ภัยสว่างอริโยบ้านหมี่ ที่เกิดเหตุพบมีชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ ที่โคนต้นไม้ใหญ่พบรองเท้าแตะ มีด และถุงย่ามวางอยู่ กลางคลองพบศีรษะคนโผล่อยู่เหนือน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ลงไปเพื่อนำขึ้นฝั่งมาเพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นทราบชื่อนายสมพงษ์ โคมแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 8 ต.ดอนดึง อ.บ้านหมี่ ลพบุรี สภาพศพขาวซีด ไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมามาไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง จึงได้ให้กู้ภัยฯ นำร่างส่งพิสูจน์ ที่ รพ.บ้านหมี่ อีกครั้ง

           จากการสอบถามแม่ค้าภายในหมู่บ้าน ผู้ที่พบกับนายสมพงษ์ เมื่อช่วงเวลา 07.00 น.เล่าว่าผู้ตายได้มาขอเซ็นเหล้าไป 1 ขวด บอกตอนค่ำจะนำเงินมาจ่าย ซึ่งตนเองก็ให้ไป จนมาทราบว่าจมน้ำตายแล้ว สอดคล้องกับคำให้การของญาติที่บอกว่านายสมพงษ์ ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมามาปลาในคลองหน้าฝายล้นกระเบากักเนื่องจากที่นี่น้ำลึกและมีปลาชุกชุมซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้ตายชอบออกมาหาปลาเพื่อนำไปประกอบอาหารที่เหลือก็ขายให้ชาวบ้าน
            ด.ช.เอ (นามสมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ซึ่งเป็นคนจับหัวศพนายสมพงษ์ เล่าด้วยความละล่ำละลักว่า ปากคอสั่น ตนเองกับเพื่อนอีก 7 คน ได้มาเล่นน้ำที่ฝายแห่งนี้ เพื่อนอีกคนได้โดดน้ำแล้วตะโกนบอกลักษณะคล้ายเหยียบหัวกะโหลกคน ซึ่งบริเวณดังกลาวมีหัวกะโหลกเครื่องสูบน้ำจมอยู่ในน้ำ 1 เครื่อง หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องตลกแกล้งให้ตกใจ ตนเองไม่เชื่อจึงได้ดำลงไปมือจับไปโดนหัวนายสมพงษ์ จนศพโผล่พรวดขึ้นเหนือน้ำ เท่านั้นเองอีก 7 คนที่อยู่ในน้ำ ต่างโกยอ้าวตะเกียกตะกายขึ้นตลิ่งวิ่งหนีกับบ้านด้วยขวัญกระเจิง ตนเองก็เช่นกันรู้สึกกลัวมากที่โดนศพ ซึ่งชาวบ้านย่านนี้ต่างโจษขานกันว่าคลองสายนี้ ฝายน้ำล้นนี้ กลืนชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วนแทบทุกปี ยิ่งกลางคืนยิ่งดูน่ากลัว ทั้งนี้คาดว่านายสมพงษ์ คงจะดื่มเหล้าเข้าไปลงไปในคลองโดยไม่มีชูชีพเกิดเป็นตะคริว ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่มีคนช่วย จึงได้สังเวยชีวิตให้กับคลองสายนี้ไปอีกราย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!