ชลบุรี-สาวร้องสื่อ..วอนตรวจสอบ จนท.เรียกเก็บค่าปรับเพื่อนต่างชาติ ทิ้งก้นบุหรี่..ทำแปลกสั่งวางเงินที่มืด

ภาพ-ข่าว:ราช/นันทพล ทิพย์ศรี

เมื่อเวลา 23.16 น.วันที่ 9 ส.ค.66 น.ส. ศิริกัญญา เกิดสำโรง อายุ 26 ปี พนักงานออฟฟิศเเห่งหนึ่ง เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ชานันท์ เกษรบัว รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่ง เรียกเก็บเงินค่าปรับจากเพื่อนชาวต่างประเทศ ทิ้งก้นบุหรี่ เป็นเงิน 6,000 บาท โดยเหตุเกิดที่บริเวณ ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
            โดยเล่ารายละเอียดว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตนเองพร้อมเพื่อนสัญชาติจีนและสัญชาติญี่ปุ่น หลังจากไปรับประทานอาหารบนเรือ กำลังจะเดินทางกลับที่พัก เมื่อผ่านจุดดังกล่าว ตนเองยอมรับว่าเพื่อนสูบบุหรี่ แล้วทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น จังหวะนั้นได้มีผู้ชาย 1 คน อายุประมาณ 30-40 ปี แต่งกายเครื่องแบบคล้ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานของเมืองพัทยา เข้ามาเรียกเก็บค่าปรับคนละ 2,000 บาท 3 คน เป็นเงิน 6,000 บาท ตนเองรู้ว่าเพื่อนทำผิดจะพาไปเสียค่าปรับ สอบถามว่าจะให้ไปปรับที่ไหน ในห้องกระจกใช่ไหม แต่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว กลับพาไปรอในที่มืด ตนเองเห็นว่าค่าปรับสูงเกินไป จึงต่อลอง กระทั่งเจ้าหน้าที่เสนอลดให้เหลือ 4,000 บาท ด้วยความที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความกลัว หลังจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพูดจาเสียงดังใส่ จึงอยากให้รีบจ่ายแล้วจะกลับที่พัก

แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว กลับไม่ได้พาไปปรับในห้องตามระเบียบ แต่กลับให้วางเงินไว้ข้างทางมืดๆ โดยไม่ได้ออกใบเสร็จแต่อย่างใด เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาทหลังจากต่อลองกันแล้ว เมื่อเดินทางกลับที่พักก็ตัดสินใจโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแนะนำให้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะที่เพื่อนชาวต่างชาติคิดว่าเมืองท่องเที่ยว รู้สึกถึงความผิดปกติในการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ที่เรียกปรับในลักษณะเช่นนี้ ว่าเป็นการหลอกเอาเงินกับนักท่องเที่ยวหรือไม่
             ซึ่งเมืองพัทยานััน มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก การกระทำเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังฝากไปถึงหน่วยงานต้นสังกัดให้ช่วยตรวจสอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเป็นการกระทำผิดจริงอยากให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่น รวมไปถึงเรียกคืนความเชื่อมั่น ให้กับนักท่องเที่ยวด้วย หากเจ้าหน้าที่ทำเสียเองประชาชนจะหวังพึ่งใครได้