ชลบุรี-พ่อบุญธรรมยิงลูกบุญธรรม นักกีฬาแม่นปืนทีมชาติดับ

ชลบุรี-พ่อบุญธรรมยิงลูกบุญธรรม นักกีฬาแม่นปืนทีมชาติดับ

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

         เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 11 พ.ย.65 จากกรณีกล้องวงจรปิดจับภาพเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 9 พ.ย.65 ภาพนาทีพ่อบุญธรรมวัย 78 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงลูกเลี้ยงนักกีฬายิงปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีคนอุ้มพยุงคนเจ็บส่งโรงพยาบาลพานทอง จากนั้นได้นำตัวคนเจ็บส่งต่อโรงพยาบาลชลบุรีทันที และผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.65 และผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะไปมอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ สภ.พานทองในเวลา 09.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.65
          ต่อมา พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 109 หมู่ 5 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี และนายทองย้อย เอี่ยมศรีเพ็ง อายุ 78 ปี พ่อบุญธรรม คนก่อเหตุได้มามอบตัวที่ สภ.พานทอง พร้อมอาวุธปืนโคลท์ ขนาด .45 ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายทองย้อย ไปสอบสวนทำแผนประกอบคำรับสารภาพและส่งตัวฟ้องศาลทันที ส่วนนายนายมงคล เอี่ยมศรีเพ็ง อายุ 46 ปี ลูกบุญธรรมที่ถูกยิง 5 นัด (ขาซ้าย 2 นัด ท้อง 2 นัด แขนซ้าย 1 นัด) ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลา 12.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.65 ซึ่งต่อมานายทองย้อย เอี่ยมศรีเพ็ง พ่อบุญธรรม ได้รับการประกันตัวออกมา เมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 เวลา 13.00 น.
          คืบหน้าล่าสุดวันนี้ 11 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 109 หมู่ 5 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบนายนายไพโรจน์ แก้วจันทร์ อายุ 40 ปี พี่ชายภรรยาผู้เสียชีวิต ได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้ยังจุดที่เกิดเหตุ เป็นออฟฟิศห้องทำงานของผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบร่องรอยของลูกกระสุนปืน 4 รู บริเวณฐานหิ้งพระของผู้เสียชีวิต จากการสอบถามนายไพโรจน์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งทำงานตรวจเอกสาร ที่จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่โต๊ะตามปกติ นายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนมายืนที่ประตูข้างห้องทำงานที่สามารถเปิดหากันได้ มีเสียงของก่อเหตุร้องบอกผู้เสียชีวิตว่า “ ไอ้ใช้ มึงตาย “
            จากนั้นได้กระหน่ำยิงนายมงคล 5 นัด ก่อนเดินออกมานั่งหลบข้างรถยนต์ของตัวเอง และมีแม่บ้านเข้ามาเห็นคนเจ็บล้มฟุบลงใต้โต๊ะทำงานเลือดนองพื้น จึงได้เรียกคนงานที่ทำงานอยู่ให้รีบเอารถมารับไปส่งโรงพยาบาล คนงานจึงช่วยกันพยุงขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลทันที และหลังจากที่นายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว ทำให้ภรรยาของผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัว เกิดความหวาดกลัวเพราะนายทองย้อย ผู้ก่อเหตุเคยพูดเชิงข่มขู่กับผู้เสียชีวิตและภรรยาผู้เสียชีวิตว่า “ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันเลย “ ทำให้ภรรยาของผู้เสียชีวิตและครอบครัวเกิดความหวาดกลัวและไม่ปลอดภัยต่อชีวิต หวั่นจะมาก่อเหตุซ้ำ เพราะคนก่อเหตุเมื่อกินเหล้าแล้วจะอาละวาดเป็นประจำ ซึ่งผู้ตายเป็นนักกีฬายิงปืนฝีมือชั้นครู มีชื่อเสียงระดับประเทศและมีดีกรีติดทีมชาติไทยอีกด้วย
             ส่วนปมเหตุเหตุนั้น เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน นายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้มอบทรัพย์สินรวมทั้งกิจการให้นายมงคล ผู้เสียชีวิตเป็นคนดูแล จากนั้นได้แยกไปทำกิจการของตัวเองในเขตรั้วเดียวกัน และ 2 ปีหลัง ช่วงวิกฤติโควิต 19 ระบาดหนัก นายทองย้อย ได้มาทวงถามเรื่องทรัพย์สินที่เคยให้นายมงคล และขอคืนเพื่อจะมาทำเองทั้งหมด แต่นายมงคล ได้กู้เงินมาลงทุนไปเยอะและเป็นหนี้อยู่ จึงยังไม่ได้คืนให้เพราะต้องทำธุรกิจ เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้และคืนทุนก่อน แต่นายทองย้อย ผู้ก่อเหตุไม่ยอมและมีการทวงถามมาเรื่อยๆ และยิ่งเวลานายทองย้อย กินเหล้าเมาก็จะอาละวาดและหาเรื่องผู้เสียชีวิตและภรรยาตลอดมา จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการกับนายทองย้อย ให้ถึงที่สุดอย่างตรงไปตรงมาและขอความยุติธรรมให้กับนายมงคล ผู้เสียชีวิตด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!