สระแก้ว-ประชุมสัมมนาโครงการการพัฒนาน้ำต้นทุนลุ่มน้ำปราจีนบุรี-บางปะกง

ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม
ขอบคุณภาพ:สนธยา จงพันธนิมิตร, ประจัก สารการ

         หวั่นแย่งชิงน้ำ ระหว่างภาคเกษตร และ ภาคอุตสาหกรรม ในเขตลุ่มน้ำปราจีนบุรี- บางปะกง หลังมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ หากขาดการวางแผนที่ดี

          เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่โรงแรมธนาสิริ อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาโครงการการพัฒนาน้ำต้นทุนลุ่มน้ำปราจีนบุรี-บางปะกง โดยลุ่มน้ำปราจีนบุรี – บางปะกง เป็นลุ่มน้ำสำคัญในภาคตะวันออก ของประเทศไทย มีพื้นที่รวมกันทั้งสิ้น 20,358.99 ตารางกิโลเมตร คลุมพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีสระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี สระบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร และในพื้นที่ดังกล่าวมีอ่างเก็บน้ำ สามารถเก็บน้ำได้โดยรวม 85, 985 ล้านลูกบาศก์เมตร
          ด้าน นายจรัล เทพอวยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าลุ่มน้ำ ปราจีนบุรีบาง-บางปะกง มีปริมาณน้ำต้นทุนที่เพียงพอต่อความต้องการในทุกๆ ด้าน แต่ยังขาดแหล่งเก็บน้ำ ตามศักยภาพที่มีในพื้นที่โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ทำให้ปริมาณน้ำ ไหลหลากลงท่วมบริเวณพื้นที่ราบลุ่มเมื่อฤดูแล้งส่งผลให้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำซ้ำซาก เช่น ทำให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่แม่น้ำปราจีนบุรี ช่วงบริเวณอำเภอเมืองปราจีนบุรี กระทั่งไม่สามารถนำน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรและผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภคได้
           นาย ณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้พื้นที่จังหวัดในลุ่มน้ำปราจีนบุรี – บางปะกง เป็นเขตการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จึงทำให้มีแนวโน้มการขยายตัวของจำนวนประชากร ในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่อุตสาหกรรมตามมา ปัญหาการขาดแคลนน้ำและสภาวะการแย่งชิงน้ำ ระหว่างภาคอุตสาหกรรม และ ภาคเกษตรกรรม จะเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงมิได้ ในอนาคต อันใกล้ ดังนั้นการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ลุ่มน้ำ ปราจีนบุรี –บางปะกง จึงเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น การที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ เพื่อศึกษาและ จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ของการบริหารจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำรวมทั้งจัดทำรายงานแผนมาตรการตามแนวทางพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการ โดยทำการศึกษาแผนโครงการตลอดจน ระดมสมองจากผู้เกี่ยวข้องทุกระดับทั้ง มิติด้านเศรษฐกิจสังคม และ สิ่งแวดล้อมอันนำไปสู่ความ สมดุลของการใช้น้ำในทุกภาคส่วนในจังหวัดที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการพัฒนาลุ่มน้ำให้เกิดความยั่งยืนและเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/