ปราจีนบุรี-“ทหารบูรพาพยัคฆ์” ปราจีนฯ ตรวจความพร้อมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

ปราจีนบุรี-“ทหารบูรพาพยัคฆ์” ปราจีนฯ ตรวจความพร้อมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

 “ทหารบูรพาพยัคฆ์” ปราจีนฯ ตรวจความพร้อมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ – อบต.โคกปีบปรับภูมิทัศน์โบราณสถานสระแก้ว เพื่อนำน้ำจาก 2 แหล่ง สมัยทวารวดีอายุมากกว่า1,560ปีไปใช้ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ร.10 ขณะผู้ว่าฯแจง พร้อมจัดพระราชพิธียิ่งใหญ่สมพระเกียรติ

            วันนี้ 14 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงาน ที่โบราณสถานวัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ร้อยเอกสงกรานต์ จันทรรัตน์มณี หัวหน้าชุดรักษาความสงบกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ประจำ อ.ศรีมโหสถ (รส.ชุดประจำ อ.ศรีมโหสถ) หรือ หน่วย “บูรพาพยัคฆ์” พร้อมกำลัง ได้ตรวจความเรียบร้อยบริเวณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้ารอยพระพุทธบาทบาทคู่ ที่ขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกขนาดใหญ่กว่า 1.50 เมตร อายุมากกว่า 1,500 ปีสมัยทวารวดี และ ที่โบราณสถานสระแก้ว ก่อนจะมีการนำไปประกอบในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก
            พบประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าว แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาตักน้ำที่บ่อศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปทำน้ำพระพุทธมนต์ ,ใช้สรงน้ำพระ และรดน้ำมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล อาทิ นาย วุฒิพัฒน์ เมฆอรุณ อายุ 59 ปี เลขที่ 69/147 รามอินทรา บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร
            นาย วุฒิพัฒน์กล่าวว่า “นำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์นี้ไปทำน้ำพุทธมนต์ ใช้ดื่ม-อาบ และใช้ในพิธีวันสงกรานต์ที่ใกล้ถึงนี้เพื่อเป็นสิริมงคล โดยนำน้ำศักดิ์สิทธิไปใช้มาทุกปีรวมกว่า 20ปีแล้ว ” นาย วุฒิพัฒน์กล่าว
             ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่โบราณสถานสระแก้ว ที่อยู่ใกล้กัน ตั้งอยู่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ ฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอศรีมโหสถ พบเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์การบริหารส่วนตำบลโคกปีบ (อบต.) อ.ศรีมโหสถ ได้นำรถน้ำ รวม 2 คัน มาฉีดน้ำรดหญ้าในสระแก้วให้เขียวขจี ในการปรับสภาพภูมิทัศน์ในสระแก้ว และรอบบริเวณ เพื่อเตรียมพร้อมในการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในสระแก้ว ไปประกอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เช่นกัน พร้อมได้ นำเชือกและป้ายประกาศมากั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปในสระแก้ว
              และพร้อมกันนี้ ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์วัดต้นโพธิ์ ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ ที่อยู่ไม่ไกลจาก 2แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์พบพุทธศาสนิกชน จำนวนมากเดินทางไปนมัสการสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลหลังจากเที่ยวชมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และที่โบราณสถานสระแก้วแล้ว เนื่องจากเป็นต้นโพธิ์ที่ขนาดใหญ่-เก่าแก่มีอายุมากกว่า2,500ปี ที่นำหน่อมาจากเมืองพุทธคยา ประเทสอินเดียต้นเดียวกับพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้
               นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “ จ.ปราจีนบุรี มีความพร้อมแล้วขณะนี้ในพระราชพิธีที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ นำน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ไปประกอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก โดยได้ตั้งคณะทำงานจัดทำน้ำอภิเษกของจังหวัดปราจีนบุรีที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 เมษายน – 9 เมษายน 2562 พร้อมกันทั่วประเทศ
               โดย จังหวัดปราจีนบุรีนั้น มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ ที่จะนำไปประกอบพิธีกรรมตักน้ำ จำนวน 2 แห่ง คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หน้ารอยพระพุทธบาทคู่ ในโบราณสถานวัดสระมรกต ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรอยพระพุทธบาทคู่ อยู่ในสมัยทวารวดีอายุกว่า1,560 ปี ที่รอยพระพุทธบาทคู่แสดงถึงสัญลักษณ์ทางศาสนาพุทธได้เข้ามาเจริญรุ่งเรืองในปราจีนบุรี มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก โดย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ พบมีน้ำใสสะอาดตลอดทั้งปี ไม่ขาด ถูกขุดลึกลงไปในศิลาแลง มีการนำไปใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ๆต่าง ๆ เสมอ
                และ น้ำศักดิ์สิทธิจาก โบราณสถานสระแก้ว ที่เป็นสระน้ำ ทางพิธีศาสนาของพราหมณ์ ยุคทวารวดีเช่นกัน ตั้งอยู่ตัวในเมืองโบราณศรีมโหสถ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี

              โดย เมืองศรีมโหสถ เป็นเมืองโบราณสมัยทราวดี ตั้งอยู่ที่ บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ จังหวัดปราจีนบุรี มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 ลักษณะของเมืองมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมบนกว้าง 700 เมตรยาว 1550 เมตรมีคูน้ำและกำแพงดินล้อมรอบภายในเมืองปรากฏซากโบราณสถานสระน้ำบ่อน้ำจัดกระจายอยู่โดยทั่วไปมีจำนวนมากกว่า 100 แห่ง

               ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดูอาทิ พบซากศาสนสถานที่ก่อด้วยศิลาแลง ที่มีอายุตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เทวรูปพระนารายณ์ ,ศิวลึงค์ เป็นต้น นอกจากนี้จากการดำเนินงานทางโบราณคดียังได้พบลูกปัดแก้วคาร์นีเลี่ยน และ ลูกปัดหินอาเกตแบบทราวดี อีกด้วย

                บริเวณนอกเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ปรากฏซากโบราณสถานที่เป็นสระน้ำโบราณเรียกว่า “สระแก้ว” เป็นสระน้ำโบราณ ที่ขุดลงไปในชั้นศิลาแลงธรรมชาติผนังศิลาแลงของสระทั้ง 4 ด้านมีภาพลักษณ์เป็นรูปสัตว์มงคลอาทิ ช้าง สิงห์ มกร มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 6-11 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 52 วันที่ 8 มีนาคม 2478”
              “โดย โบราณสถานสระแก้วนี้ ตั้งอยู่ทางนอกเมืองโบราณสมัยทราวดีศรีมโหสถ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 100 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 18 ×18 เมตร ลึกประมาณ 6.50 เมตร โดยขุดลงไปบน ชั้น ดิน ที่เป็นชั้นของศิลาแลงริมผนังของ สระด้าน ในทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นภาพสัตว์ปรัมปรา อาทิ ช้าง , สิงห์ และ มกร เป็นต้น
                สัตว์ต่างๆเหล่านี้ตามทัศนคติของฮินดูเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล สระแก้วนี้กำเนิดอายุได้ประมาณระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10-11 ซึ่งจะมีพิธีทำน้ำอภิเษกเจริญพระพุทธมนต์ และเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบางกระเบา(อารามหลวง) อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
               กำหนดการพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ จะเริ่มในวันที่ 6 เมษายน 2562 ที่ฤกษ์ประกอบพิธีเวลา 11.52 นาฬิกา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีจะเป็นประธานพิธีจุดธูปเทียนบูชาประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ บัณฑิตอ่านโองการบวงสรวง เพื่อประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำ และอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นรถแห่ไปพักไว้ ณ สถานที่เหมาะสมและสมพระเกียรติ

               วันที่ 8 เมษายน ฤกษ์เวลา 17.10 พิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ และวันที่ 9 เมษายน 2562 ฤกษ์เวลา 12.00 น.เป็นพิธีดับเทียนชัยและเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษกน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามลำดับ” นายพิบูลย์ กล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!