กาญจนบุรี-ผวจ.ลงพื้นที่ ปฏิบัติการไล่ล่าจระเข้

กาญจนบุรี-ผวจ.ลงพื้นที่ ปฏิบัติการไล่ล่าจระเข้

ภาพ/ข่าว:มานพ​ บุตรเนียม​ 

          ผวจ.กาญจน์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท.และผู้ปฏิบัติการไล่ล่าจระเข้ คลองท่าสาร-บางปลา ตะคร้ำเอนพร้อมสั่งกันเป็นเขตพื้นที่อันตราย ป้อง ประชาชนเข้าใกล้ ในพื้นที่บริเวณที่จระเข้อาศัยอยู่

               ความคืบหน้ากรณีนายคีรี แย้มศิรี อายุ 40 ปี ชาวบ้านตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ออกไปตกปลาที่บริเวณไร่ของตนเองลำคลองท่าสาร-บางปลา ท้องที่หมู่ 9 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีแต่ปรากฏพบจระเข้ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร อาบแดดอยู่ริมลำคลองฝั่งตรงกันข้าม เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 11.45น.ของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการค้นหาจนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่5แล้วยังไม่สามารถจับจระเข้ได้ โดยช่วงเวลาประมาณ 12.20 น.ของวันที่ 19 ม.ค.ขณะที่นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 รวมทั้งทีมงานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา ล่องเรือสำรวจไปตามลำคลองพบจระเข้ตัวขนาดใหญ่ยาวกว่า 3 เมตร ห่างจากจุดที่พบจระเข้ครั้งแรก ประมาณ 500 เมตร แต่ก็ไม่สามารถจับได้เนื่องจากจระเข้ตัวดังกล่าวไหวตัวและลงน้ำไปเสียก่อน                ล่าสุดเมื่อเวลา 10:20 น.วันนี้ 21 ม.ค.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานโดยมีนายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ นายปราโมทย์ จิตนิยม กำนันตำบลตะคร้ำเอน นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอท่ามะกา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ให้การต้อนรับ และร่วมกันเล่าปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการติดตามไล่ล่าจระเข้ที่พบในคลองท่าสารบางปลา                  สำหรับอุปสรรคที่สำคัญคือภายในลำคลองท่าสาร-บางปลา กระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว และมีความลึกถึง 4 เมตร และมีต้นไม้ปกคลุมทั้ง2ฝั่งคลอง จึงทำให้ไม่สามารถนำอวนของประมงลงไปขึงกั้นลำคลองตามที่ได้ร่วมกันวางแผนเอาไว้ได้ เนื่องจากอวนลอยขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ อีกทั้งสองฟากฝั่งลำคลองนั้นเต็มไปด้วย ขณะเดียวกันระหว่างการค้นหาในช่วงเวลากลางคืนมีประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดเสียงดังจากการพูดคุยและเสียงดังของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ขับวนไปมาจึงทำให้จระเข้ไม่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ                    ทั้งนี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า สำหรับแนวทางในการป้องกันและแนวทางในการแก้ปัญหาในเบื้องต้นนั้น ตนได้แจ้งไปยังนายอำเภอท่ามะกา รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นเช่นนายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประมง และผู้ปฏิบัติงานในการค้นหา ให้กันพื้นที่บริเวณภายในลำคลองและตามตลิ่งที่คาดว่าจระเข้จะอาศัยอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามาข้องเกี่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจะได้ร่วมกันเฝ้าระวัง อาจจะทำด้วยวิธีการนำเหยื่อที่จระเข้ชอบกินเป็นอาหารนำไปล่อตามตลิ่งและภายในลำคลอง แต่ทุกอย่างก็ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ เพราะดูแล้วเหมือนกับว่าจระเข้เริ่มจะรู้ตัว และหากมีผู้คนมาเป็นจำนวนมากก็จะทำให้การจับนั้นยากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้จำเป็นต้องกันพื้นที่อันตรายออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาใกล้ สำหรับคำเตือนนั้นทางอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และยังไม่รู้ได้ทราบข่าวไปแล้วว่า ในช่วงที่ยังจับตัวจระเข้ไม่ได้ ก็อย่าได้นำพาลูกเด็กเล็กแดงมาทำกิจกรรมทางน้ำในเขตพื้นที่ที่กันเอาไว้เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กๆได้
และล่าสุดเมื่อเวลา15:30น ประมงจังหวัดจึงออกทำการเดินสำรวจพร้อมผู้สื่อข่าวขึ้นมาจุดที่พบครั้งแรกจนมาถึงหน้าฟารม์หมูจึงพบมูลจระเข้พร้อมรอยเท้าของจระเข้จึงค่อยๆเดินสำรวจก็พบจระเข้วิ่งลงน้ำ ทางประมงจังหวัดจึงทำการ มาร์คพิกัด ที่พบจระเข้ไว้และจะทำการ ค้นหาในวันพรุ่งนี้ต่อไป .

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!