สระแก้ว-ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ร.12 รอ.ต้นแบบศาสตร์พระราชา

ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม

               ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ร.12 รอ. ต้นแบบศาสตร์พระราชาของจังหวัดสระแก้ว

              หลังจากประเทศไทยได้รับผลกระทบจาก การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19เช่นเดียวกับประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายสกัดกั้นการระบาดของเชื้ออย่างเข้มแข็ง ในขณะที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคนเป็นอย่างดี ส่งผลให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในระยะเวลาอันสั้น
             ในขณะเดียวกันมาตรการสกัดกั้น โดยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในระยะเวลาที่นาน ทำให้ประชาชนคนไทยจำนวนมากเกิดความอดอยาก แต่คนไทยทั่วทั้งประเทศได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อแก้ไขปัญหาความอดอยาก โดยครั้งล่าสุดได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลและมีการจัดตั้งโรงทาน กระทั่งมีการจัดตู้ปันสุข ตู้แบ่งปันอาหารให้ประชาชนได้หยิบเอาไปพอดี รับประทานอิ่ม แต่ถ้าใครมีก็นำมาเติมเต็มและในขณะมีการกักเก็บตัวอยู่บ้านเพื่อช่วยชาติ เป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของเชื้อ จึงมีนโยบายให้ประชาชนหันมาดำเนินชีวิต น้อมนำเอาศาสตร์พระราชามาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม มีการปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง ถ้าเหลือก็แบ่งปันให้ผู้ยากไร้
               สำหรับกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ค่ายไพรีระย่อเดช จ.สระแก้ว ได้น้อมนำศาสตร์พระราชา มาปฏิบัติ โดยการสร้างศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บนพื้นที่บริเวณด้านหลังค่ายไพรีระย่อเดชกว่า 40 ไร่ โดยได้รับความร่วมมือกับวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว เกษตรจังหวัดสระแก้วเป็นหลัก พร้อมส่วนราชการและเอกชน ให้การสนับสนุนในด้านวัสดุ อุปกรณ์ในการสร้างศูนย์เรียนรู้
              สำหรับที่กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์นำโดย พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ นายศิระพจต์ จริยาวุฒิกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว นายประจักษ์ ประสงค์สุข เกษตรจังหวัดสระแก้ว และส่วนราชการอื่น ๆ อีก รวมทั้งเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในจัดทำ ศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชา บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ บริเวณด้านหลังค่ายไพรีระย่อเดช และยังได้รับความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ สร้างฐานเรียนรู้ สร้างที่พักอาศัย จากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่าย สร้างอาคารหลังคา 9 เหลี่ยม และซุ้มต่างๆ จากกำลังพล เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหาราบที่ 12 รักษาพระองค์ ด้วยจิตอาสาอีกด้วย
             ทางด้าน พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ เผยว่า ได้ดำเนินการสร้างศูนย์แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา ประกอบด้วย แปลงสาธิตการปลูกผักปลอดสารพิษ คันนาทองคำปลูกทุกอย่างที่กินได้ สาธิตการกำจัดน้ำเสียโดยการใช้ผักตบชวาและต้นธูปฤษี การเลี้ยงปลา การเพาะพันธุ์ปลา การเลี้ยงกบและปลาในแปลงานาข้าว เลี้ยงไก่พื้นบ้าน เลี้ยงเป็ด เลี้ยงสุกร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ในขณะเดียวกันจะนำผลกำไรที่ได้จากดำเนินการจัดเป็นกองทุนสวัสดิการต่างๆ เพื่อมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของทหารกองประจำการ และช่วยเหลือกำลังพลในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาองค์ความรู้ ของผู้ปฏิบัติประจำศูนย์ เพื่อเผยแพร่แก่ประชาชน บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่
             สำหรับบริเวณศูนย์การเรียนรู้ฯ จะแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ เช่นส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนที่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านอาชีพ ส่วนที่ใช้ฝึกอาชีพ และส่วนที่เป็นสถานที่จัดนิทรรศการจะมีอาคารจัดแสดงนิทรรศการ แบบจำลองเศรษฐกิจพอเพียงที่เข้าใจและจดจำได้ง่าย เช่น ลักษณะดิน หญ้าแฝก การทำการเกษตร ที่มีการจำลองบรรยากาศ แสดงตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจน นอกจากเรียนรู้ทฤษฎีจากส่วนจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารแล้ว จำเป็นต้องลงมือปฏิบัติผ่านฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย ลงมือทำนาที่ฐานกาเรียนรู้นาข้าว ฐานการเรียนรู้ทำประมง และปศุสัตว์ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในที่ดินของตนเองจากฐานการเรียนรู้ดิน น้ำ ปุ๋ย
สำหรับศูนย์การเรียนรู้ แห่งนี้ ใช้เป็นต้นแบบการดำเนินการโครงการ และเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้หน่วยทหาร กำลังพลได้มาเรียนรู้ พัฒนาเป็นอาชีพเสริมแก่กำลังพลและครอบครัวรวมทั้งประชาชนทั่วไป และเป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ของประชาชนทั่วไป อีกด้วย
ทางด้าน นายศิระพจต์ จริยาวุฒิกุล ผอ.วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว เผยว่า การดำเนินการจัดศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา ได้รับความร่วมมือจากกรมทหาราบที่ 12 รักษาพระองค์ เกษตรจังหวัดสระแก้ว และวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว เป็นหน่วยงานหลัก นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากเอกชน และประชาชนทั่วไป โดย แหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชาแห่งนี้  นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านอาชีพต่างๆ แล้ว ยังมีการฝึกอาชีพต่าง ๆ ให้กับแม่บ้านทหาร กำลังพล และประชาชนทั่วไป กว่า 100 สาขาอาชีพ โดยมีวิทยากรจากวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว ดำเนินการสอนและฝึกอาชีพอย่างต่อเนื่อง และที่ได้ดำเนินการฝึกอาชีพให้กับแม่บ้านทหารและประชาชนที่เป็นต้นแบบในการประกอบอาชีพและนำไปขยายผลให้ประชาชนในท้องที่แล้ว มีการเพาะเลี้ยงไหมอีรี่ การทำสบู่ทำแชมพูไหมอีรี่ การทำอาหารที่มีส่วนผสมที่มีโปรตีนสูงจากดักแด้ไหมอีรี่ การทำไอศกรีมมะม่วง การทำขนมบราวนี่ เป็นต้น

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/