ประจวบคีรีขันธ์-มึน..!!เด็กร้องลั่นบ้านมีคนบุกรุกกลางดึก..ระดมตำรวจ-กู้ภัยค้นหาไม่พบ..!!
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 21 พ.ค.67 ร.ต.ท.วศิน บูรณศักดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกิดเหตุมีคนบุกรุกเข้ามาในบ้านยามวิกาลกลางดึก เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านหนองหูช้าง ตำบลเกาะหลัก จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเป็นลักษณะห้องแถวให้เช่าชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง ผนังปูน ตั้งอยู่ในซอยอู่ตาลี้ หมู่ 2 บ้านหนองหูช้าง ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยบ้านเช่าหลังที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 5 ภายในมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ประตูด้านหลังห้องเป็นลักษณะประตูไม้สภาพเก่า ด้านหน้าเป็นประตูเหล็กเลื่อน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าฝ้าเพดานภายในห้องน้ำชำรุดพังหลุดห้อย และมีเสียงดังกุกกักลักษณะเหมือนมีตัวอะไรเดินอยู่บนฝ้า จนท.ตำรวจจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯนำกำลังเจ้าหน้าที่ และรถอุปกรณ์ส่องสว่าง พร้อมบันไดเข้าร่วมให้การสนับสนุนหาตัวผู้ก่อเหตุ ล่าสุดยังไม่พบตัว
ด้านเด็กชาย โก๊ะ (นามสมมุติ) เล่าว่า ในขณะที่ตนเองนอนอยู่ในห้องนอนภายในห้องเช่าเลขที่ 5 เพียงลำพัง ส่วนยายและพี่สาวคนอื่นๆนอนอยู่ในห้องติดกัน ตนเองได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินดังกุกกักอยู่หลังบ้าน ตนรู้สึกกลัวจึงได้หยิบมีดเล่มเล็กออกมา 2 เล่ม แล้วออกจากห้องมาดูก็มาจ๊ะเอ๋ประจันหน้าพบเจอกับคนร้ายหัวขโมย ลักษณะเป็นชายร่างท้วมไม่สูง สวมหมวกคุมใบหน้า ใส่เสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ใส่รองเท้าผ้าใบ สวมถุงมือ และใช้ถุงพลาสติกสวมหุ้มรองเท้า ด้วยความตกใจกลัว จึงได้ใช้มีดแทงเข้าไปที่ท้อง 1 เล่ม ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าหรือไม่ จากนั้นจึงวิ่งไปหยิบกุญแจไขประตูหน้าบ้านแล้วร้องเรียกตะโกนให้คนช่วย**
**ด้านตากับยายของเด็ก(ไม่ประสงค์ออกนาม) เปิดเผยว่า ตนเองเช่าห้องไว้ 4 ห้องเพื่อพักอาศัยและเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน ก็มีลักษณะชายแปลกหน้าต้องสงสัยมายืนลับๆล่อๆที่หน้าบ้าน และได้ยินเสียงหมาเห่าบริเวณหลังบ้าน แต่ก็ไม่พบจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูครั้งหนึ่งแล้วก่อนหน้านี้ประมาณ 1 วัน และมาวันนี้ก็พบว่าหลานชายตะโกนร้องเรียกเสียงเอะอะโวยวายลั่นบ้านว่ามีคนเข้ามาในบ้านจึงได้แจ้งตำรวจให้มาดูดังกล่าว
โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าห้องเช่าหลังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องเลขที่ 5 พบว่าประตูหลังบ้านมีลักษณะชำรุดปิดสนิทไม่สามารถเปิดได้ ส่วนฝ้าเพดานในห้องน้ำมีลักษณะชำรุด หลุดร่วงเป็นช่องขนาดใหญ่ กู้ภัยจึงได้ขออนุญาตปีนขึ้นไปบนฝ้าจากห้องเช่าเพื่อนบ้านข้างเคียง แล้วไปเดินบนกำแพงปูนที่เป็นอิฐบล็อก เพื่อสำรวจบนฝ้าว่ามีใครหลบซ่อนตัวอยู่หรือไม่ เนื่องจากบนพื้นฝ้าไม่สามารถเดินได้ และไม่สามารถขึ้นจากห้องจุดเกิดเหตุได้ โดยฝ้าเพดานทุกห้องเป็นลักษณะฝ้าเพดานฉาบเรียบยึดฝังด้วยน็อตตะปูเกลียว ไม่มีช่องโหว่ให้ลงไปได้ แม้แต่เพียงห้องเดียว จึงเป็นข้อสงสัยให้เจ้าหน้าที่ว่าหากมีคนร้ายหวังเข้ามาก่อเหตุจริงจะหลบหนีไปได้ทางไหน เนื่องจากหากลงมาก่อเหตุภายในห้องเลขที่ 5 แล้ว ประตูหลังบ้านก็ออกไม่ได้ หากปีนฝ้าเพดานขึ้นไปก็มีความยากลำบากและต้องมีรอยเท้าการปีน หากปีนขึ้นจากห้องเพื่อนบ้านข้างเคียงแล้วจะสามารถลงห้องไหนได้เนื่องจากฝ้าทุกแผ่นยึดด้วยน็อตสกรู เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความประสงค์ให้เจ้าของบ้านทราบว่า หากต้องการแจ้งความก็ให้ตามไปแจ้งความที่โรงพักต่อไป และได้รับปากว่าจะให้สายตรวจนำรถมาลาดตระเวนเป็นระยะเพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้กับชาวบ้านต่อไป
