สมุทรปราการ-หนุ่มพม่ากระโดดสะพานข้ามคลองสำโรงจมหาย ชุดประดาน้ำงมหากว่า 30 นาที จึงพบร่างจมก้นคลอง

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

            เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีคนกระโดดสะพานข้ามคลองจมสูญหายไปในน้ำ บริเวณสะพานข้ามคลองสำโรง ด้านถนนศรีนครินทร์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
            ที่เกิดเหตุ บริเวณคลองสำโรง ด้านถนนศรีนครินทร์ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 80 เมตร บริเวณกลางสะพานข้ามคลอง เจ้าหน้าที่ พบ กระเป๋าสะพาย สีน้ำตาล ด้านในมี กางเกงใน เสื้อ ผ้าโสร่ง และ กระเป๋าสตางค์ ซึ่งภายในมีเงินสกุลต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง มีสำเนาเองสารจำตัวต่างชาติ เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันพบ นายชโลธร กิมยิ่งยศ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยจากการสอบถาม ทราบ ว่าผู้ก่อเหตุนั้นกระโดดลงตรงช่วงบริเวณกลางสะพาน เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังชุดประดาน้ำ จำนวน 7 ตัว ลงค้นหาภายในคลองสำโรง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงพบร่างผู้สูญหายจมอยู่ก้นคลองสำโรง ที่ความลึกประมาณ 4 เมตร ก่อนจะนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง เพื่อทำการตรวจสอบเบื้องต้น
            จากการสอบถาม นายชารินทร์ บุญกิริยาวัติ อายุ 47 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำ พอหันมาก็เห็นเขากำลังตะเกียดตะกายอยู่ในน้ำ แต่เขาไม่ได้ส่งเสียงขอให้ช่วย ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะปกติแล้วคนกลัวตายจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่นี่เขาไม่ตะโกนหรือส่งเสียงเลย ตนรีบไปบอกเพื่อนให้ไปดู ตอนนั้นเขาก็เหมือนพยายามตะกุยน้ำอยู่สักพักก็เหมือนจะหมดแรง แล้วเสียงก็เงียบไป ตอนแรกตนจะกระโดดลงไปช่วยแต่น้องบอกว่าอย่าลงไปเพราะไม่รู้ว่าน้ำมันลึกขนาดไหน

              นายชโลธร กิมยิ่งยศ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า มีพี่นั่งกินเหล้ากินเบียร์ที่อยู่ตรงริมน้ำ เค้าไปตามตนที่ห้องก็เลยรีบวิ่งกันมา แล้วพี่เขาจะลงไปช่วยตนเลยบอกว่าพี่ว่ายน้ำไม่แข็งอย่าลงไปเลย ตนเลยไปตามกู้ภัยตรงสี่แยก แล้วให้แฟนโทรเรียกกู้ภัยอีกทาง ตนเห็นตอนเขาอยู่ในน้ำแล้วตะเกียดตะกาย แต่ตนไม่ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยก่อนที่เขาจะจมน้ำหายไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเก็บกระเป๋าที่วางอยู่บนสะพานไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป