ตำรวจไซเบอร์ จับกุมขบวนการ หลอกลงทุนซื้อสินค้าเพื่อรับค่าคอมมิชชั่น ผ่าน Facebook เสียหาย 1.7 ล้านบาท
ภาพ-ข่าว:อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผู้เสียหาย ต้องการหางานเสริม จึงได้หางานจากแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊คโดยได้พบบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Janice Strehlow” ได้โพสข้อความเกี่ยวกับการหางาน ซึ่งผู้เสียหายสนใจ จึงได้สนทนาผ่านโปรแกรม แมสเซ็นเจอร์ จากเฟชบุ๊กดังกล่าว และได้เพิ่มเพื่อนในไลน์ไอดีเพื่อทำการคุยติดต่อเรื่องงาน และผู้ใช้บัญชีดังกล่าวได้สอนผู้เสียหายเกี่ยวกับการนำเงินมาลงทุน ซื้อสินค้า เพื่อ รับค่าคอมมิชชั่นโดยอ้างว่าเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้านั้นๆ โดยจะได้รับเงินต้นและค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเป็นงานในนามของบริษัท PRIMAL COMPANY LIMITED
หลังจากนั้นไลน์ดังกล่าวได้ส่ง URL (เว็บไซต์) เพื่อจะทำการเข้าไปร่วมลงทุน ชื่อ “www.primalthai.com” โดยเมื่อผู้เสียหาย โอนเงินไปจะมียอดเงิน (เครดิต) ขึ้นไปยังเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว จากนั้นให้ผู้เสียหายโอนเงินไปเพื่อทำการซื้อสินค้า จากเว็บไซต์ดังกล่าว ไปทั้งหมด 6 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,713,617.80 บาท ภายหลังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.และ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ เพื่อตัดวงจรหลอกลวงออนไลน์
ต่อมา วันที่ 16 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 17.30 น. พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สุรพล เห็มไธสง, พ.ต.ท.รังสรรค์ แสงรูจี และ พ.ต.ต.ภาสกร กันประ ดับ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 เข้าร่วมจับกุมตัว นายอธิชา บุญธรรม อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3019/2566 ลงวันที่ 12 กันยายน 2566 ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” อันเป็นความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 โดยควบคุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 276/2 หมู่ที่ 1 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหาย และจะเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติฯ กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนระมัดระวังการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพลักษณะดังกล่าว ขอความร่วมมือผู้พบเห็นข้อความชักชวนลงทุนต่าง ๆ ไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ พร้อมเตือนบุคคลที่สนใจการลงทุน ให้รู้เท่าทันกลลวงในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการอ้างผลการลงทุนได้ค่าตอบแทนที่สูงเกินจริง และข้อสำคัญเพื่อป้องการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ต้องไม่เร่งรีบตัดสินใจเชื่อเมื่อพบเห็นข้อมูลเชิญชวนต่าง ๆ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ขอให้ตรวจสอบตัวตนผู้มาเชิญชวนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และต้องมีความรอบคอบและระมัดระวังในการโอนเงิน ตามหลักการ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ทุกรูปแบบ
