ราชบุรี-อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 จัดโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน

ราชบุรี-อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 จัดโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน

ภาพ-ข่าว:ประทีป อยู่แช่ม

             ( 9 พ.ย. 66 ) นายตุลยวัต พรหมพันธ์ใจ อธิบดีผู้พิพากษา ภาค 7 เป็นประธานเปิดโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต2 จ.ราชบุรี โดยมีนางสาววันวิสาข์ สิรันทวิเนติ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย ประธานผู้พิพากษาสมทบ และผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 7 เข้าร่วมกิจกรรม ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 จ.ราชบุรี
            สำหรับโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน (All for One) เพื่อร่วมมือกันดูแล แก้ไข ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดในเขตอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 7 ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพและนำมาซึ่งความรัก ความสามัคคีของเยาวชนในการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ โดยศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค7 ผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้จัดโครงการ ถือเป็นโอกาสที่ดีของศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เพชรบุรี ที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ รูปแบบการดำเนินกิจกรรมจะเป็นการมุ่งเน้นสร้างขวัญ กำลังใจในการกลับตัวเป็นคนดี มุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ดีแก่เด็กและเยาวชนผ่านกิจกรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วมและสนุกสนานภายใต้แนวคิด “ สวนสนุก All For Fun .”
              นายตุลยวัต พรหมพันธ์ใจ อธิบดีผู้พิพากษา ภาค 7 เปิดเผยว่า โครงการนี้เกิดจากศาลาเยาวชนและครอบครัว ทั้ง 8 จังหวัด 9 ศาล ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ ภาค 7 เป็นการจัดเพื่อให้เด็กๆที่ถูกส่งเข้ามาที่นี่มีความสามัคคีอยู่ร่วมกัน ไม่กระทบต่อต่อจิตใจ เพราะทุกคนที่ถูกส่งเข้ามาจากต่างพื้นที่และมาอยู่รวมกัน ทางศาลเยาวชนฯเห็นว่าควรจัดศูนย์การเรียนรู้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเด็กเพื่อให้เด็กที่อยู่ที่นี่ได้ร่วมกันทำความดีและรักสามัคคีต่อกัน สามารถเยียวยาที่ตัวเองทำผิดและสามารถกลับไปเป็นคนดีในสังคมได้ในวันข้างหน้า โดยศาลเยาวชนในภาค 7 จะร่วมกันเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดโครงการนี้ต่อไป
               นางสาววันวิสาข์ สิรันทวิเนติ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้จะหมุนเวียนจัดขึ้นเพื่อร่วมกันดูแลเยาวชนในศูนย์ฝึกร่วมกัน เฉลี่ยประมาณ 2 เดือนต่อครั้ง โดยศาลเยาวชนมีทั้งหมด 8 ศาล ในวันนี้ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เพชรบุรีเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยทีมคณะผู้พิพากษาสมทบ ซึ่งเป็นคณะทำงานรวมถึง ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ได้ให้น้องตอบแบบสอบถามว่าอยากได้อะไร อยากกินอะไร และมาประชุมทีมกัน และได้ข้อสรุปว่าน้องอยากได้ครีมล้างหน้า อยากได้ครีมทาหน้า อาหารอีสาน วันนี้เลยจัดชุดกิ๊ฟเซทมาให้ รวมทั้งมีของที่ระลึกมอบให้ด้วย มีการจัดซุ้มสวนอาหาร และสวนสนุกมาให้ด้วย อยากให้เด็กๆมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทุกคน ให้รู้สึกว่าเหมือนตัวเองได้อยู่บ้านได้เที่ยวงานวัด แต่ออกไปไม่ได้ จึงขนสวนสนุกเข้ามาให้เล่นแทน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เด็กๆที่แข่งขันวัวกระทิงและอยู่บนหลังวัวกระทิงได้นานที่สุดเป็นผู้ชนะ เป็นการจูงใจให้เด็กๆเกิดการอยากร่วมกิจกรรมมากขึ้น รู้สึกดีใจที่การจัดกิจกรรมครั้งนี้เด็กอยากมีส่วนร่วม มีความสุข หวังว่าการที่ได้ร่วมกิจกรรมวันนี้จะทำให้เขามีความสุขอยู่ในศูนย์ฝึก และออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้ เป้าหมายคือ ไม่ต้องการให้เยาวชนที่นี่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
                 ภายในงานมีเด็กๆให้ความสนใจกิจกรรมโยนห่วง และกิจกรรมนั่งบนหลังวัวกระทิงที่ได้รับความสนใจจากน้องๆรอคิวจะแข่งขันกันหลายคน โดยมีกติกา หากน้องคนไหนนั่งบนหลังวัวกระทิงที่จะมีลักษณะเหวี่ยงตัวไปมาได้นานที่สุด จึงจะเป็นผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 2000 บาท ซึ่งการแข่งขันมีน้องๆเข้าร่วมแข่งขัน เริ่มมีการจับเวลาตั้งแต่นั่งได้ 13 วินาที ไปจนถึงเวลา 65 วินาที เป็นเวลาที่ยาวนานที่สุด จึงได้รับเงินรางวัลกลับไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!