ชลบุรี-ตำรวจพัทยารวบเขมรเร่ร่อนมือเผาหาดลับ -พิพิธภัณฑ์ พาโรดี้ เผยตามจากก้อนหิน

ชลบุรี-ตำรวจพัทยารวบเขมรเร่ร่อนมือเผาหาดลับ -พิพิธภัณฑ์ พาโรดี้ เผยตามจากก้อนหิน

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

            จากกรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้หาดลับพัทยา หรือหาดวงอมาตย์ ภายในซอยนาเกลือ 18 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของชาวประมงเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงผลกระทบให้กับพื้นชายหาดเกิดความสกปรก ภายหลังทางเมืองพัทยา จัดเจ้าหน้าที่ไปทำความสะอาด จนกลับเข้าสู่สภาพปกติแล้ว นอกจากนี้ในเวลาไล่เรี่ยกันยังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ พิพิธภัณฑ์ ศิลปะพาโรดี้ อาร์ท ได้รับความเสียหาย โดยชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าเกิดจากการลอบวางเพลิง ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยา ได้นำกำลังลงพื้นที่หาหลักฐานเชื่อมโยงเพิ่มเติม กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

             ล่าสุดเมื่อคืนของวันที่ 1 มีนาคม 2566 พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันธ์สีห์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่าได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อคือนาย ร่า อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นบุคคลเร่ร่อนได้ที่เพิงพักภายในป่า ซอยนาเกลือ 18 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยนายร่า ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวดำเนินคดี โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงในการกระทำผิดมัดตัว
              พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันธ์สีห์ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่านอกจากทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จากทางเข้าหาดวงอมาตย์ และกล้องวงจรปิดของพิพิธภัณฑ์ พาโรดี้ อาร์ท แล้ว ยังพบวัตถุที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคนก่อเหตุเป็นก้อนหิน​ สีดำ ที่วางเรียงรายไว้ที่จุดเกิดเหตุพิพิธภัณฑ์ พาโรดี้ อาร์ท โดยพบอยู่ภายในกระเป๋าเป้สีดำ ที่เพิงพักของนายร่า เป็นก้อนหินลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบของกลาง ไฟแช็ก​ จำนวน 2 อัน หัวแก๊สกระป๋อง จำนวน 1 หัว ไฟแช็ก​แบบเติมแก๊ส จำนวน 1 อัน หมวกสีน้ำตาล, กางเกงยีนส์ขายาว,เสื้อยืดแขนสั้น สีดำ อีกด้วย

             อย่างไรก็ตามพ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยังกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ล่าตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้โดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวอีก กระทั่งติดตามควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางเป็นหลักฐานพยานเชื่อมโยงกัน จึงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!