เพชรบุรี-สอบ พนง.ขับรถเทศบาลเมืองชะอำ ..!! กร่าง นำกลุ่มชายฉกรรจ์ ข่มขู่นักข่าว

เพชรบุรี-สอบ พนง.ขับรถเทศบาลเมืองชะอำ ..!! กร่าง นำกลุ่มชายฉกรรจ์ ข่มขู่นักข่าว

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเพชรบุรี

            สอบ พนง.ขับรถเทศบาลเมืองชะอำ กร่าง นำกลุ่มชายฉกรรจ์ ล้อมกรอบค้ำคอ นักข่าวช่อง 7 ช่อง 3 บังคับลบคลิป ข่มขู่อาฆาตไม่ให้ทำข่าวในบ่อลูกรัง อดีต สจ.ดังเพชรบุรี ผู้การตำรวจสั่งค้นบ้าน สอบประวัติคู่กรณี ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อดินลูกรัง หากพบผิดให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
             จากกรณีเกิดเหตุรถแม็คโครตักดินถูกโคลนถล่มทับจมน้ำที่บริเวณบ่อดินลูกรัง หมู่ 4 บ้านห้วยหิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้มีนายนายปริพรรห์ รชตธรรมกุล ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 7 ประจำ จ.เพชรบุรี และนายมานิตย์ รักพานิชแสง ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 3 ประจำ จ.เพชรบุรี เดินทางไปติดตามสถานการณ์เพื่อรายงานข่าวที่บริเวณเกิดเหตุ แต่ระหว่างที่บันทึกภาพเก็บข้อมูลอยู่นั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์และผู้หญิงประมาณ 15 คน เดินเข้าข่มขู่พร้อมใช้ท่อนแขนล็อกคอลากออกไปไม่ให้ทำข่าว โดย 1 ในชายฉกรรจ์ได้ถามนักข่าวว่ารู้ไหมกูเป็นใครแล้วเปิดเสื้อคลุมให้เห็นป้ายชื่อแสดงตัวที่หน้าอกชุดสีกากีระบุชื่อนายประสาน อังกินันทน์ พนักงานประจำขับรถน้ำเทศบาลเมืองชะอำ จากนั้นนายประสานได้ใช้มือค้ำคอตนให้เดินถอยหลังมาที่รถ จากนั้น นายประสานได้เดินมาดึงแมสเปิดหน้านายมานิตย์ และกล่าวว่าขอดูหน้าหน่อยโดยที่นายมานิตย์ไม่ได้ให้อนุญาต และไม่ทันให้นายมานิตย์ตั้งตัว จากนั้นนายประสานได้กล่าวว่าไม่ให้บันทึกภาพถ้าบันทึกภาพจะตามไปจัดการถึงบ้าน ขณะเดียวกันมีชายอีก 1 คนเดินเข้ามาล็อคคอตนและกระชากโทรศัพท์ออกจากมือตนส่งให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนสีชมพูทำการลบภาพทั้งหมดที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ นายมานิตย์เห็นดังนั้นจึงพยายามห้ามปรามให้ใจเย็นไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
               แต่ปรากฏมีผู้ชายอีก 1 คนเดินมากระชากโทรศัพท์ออกจากมือนายมานิตย์และยื่นส่งให้ผู้หญิงคนเดิมลบข้อมูลเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผู้ชายอีก 1 คนมาดึงบัตรประชาชนและบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวของตนไปบันทึกภาพไว้ จากนั้นกลุ่มคนทั้งหมดประมาณ 15 คนได้เดินล้อมต้อนนายมานิตย์และตนมาที่รถผู้สื่อข่าวบังคับให้ออกนอกพื้นที่โดยนายประสานพูดข่มขู่ย้ำว่าหากมีภาพออกไปตามสื่อต่างๆจะตามไปจัดการถึงบ้าน ทั้งนี้ขณะที่ตนกำลังขับรถออกนอกพื้นที่ ยังมีชาย 2 คนยืนถ่ายวีดีโอบันทึกป้ายทะเบียนรถตลอดเวลา โดยหลังเกิดเหตุนายปริพรรห์ และนายมานิตย์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สายยนต์ ขึ้นนกคุ้ม สารวัตรเวร สภ.ชะอำ ขอให้ดำเนินคดีกับนายประสาน อังกินันทน์ และกลุ่มพวก ในข้อหาประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจ กักขังหน่วงเหนี่ยว พรบ.คอมพิวเตอร์ ทำลายทรัพย์สิน ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือและข่มขู่อาฆาต พร้อมยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
                คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย. ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ได้เชิญนายปริพรรห์ และนายมานิตย์มายัง สภ.ชะอำ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเรียกตัวนายประสาน อังกินันทน์ มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง และเชิญนายสมชาย มีนาม ที่ปรึกษา นายก อบจ.เพชรบุรี เจ้าของบ่อดินลูกรัง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขออนุญาตทำบ่อดินลูกรังว่าถูกกฎหมายหรือไม่
                พล.ต.ต.ปิติ กล่าวว่า เบื้องต้นได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชะอำ นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามที่ผู้เสียหายได้ให้การไว้ สำหรับผู้เสียหายกังวลเรื่องถูกข่มขู่คุกคามนั้นตนยอมไม่ได้ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ ไปขอหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ถูกกล่าวหาเพื่อค้นหาอาวุธปืนและสอบประวัติว่าเคยก่อคดีอะไรมาหรือเปล่า พร้อมทั้งจะประสานหน่วงงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบ่อดินลูกรังในที่เกิดเหตุว่ามีการขออนุญาตประกอบการถูกต้องหรือไม่ หากพบความผิดจะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในบริเวณที่เกิดเหตุในบ่อดินลูกรังดังกล่าวได้มีญาติของผู้สูญหายได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางขอให้เปิดทางขอให้พบร่างผู้สูญหาย โดยมีอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานร่วมใช้เรือวิ่งค้นหา และดำน้ำค้นหา ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากน้ำของบ่อดินมีความลึกและน้ำค่อนข้างขุjนอย่างมาก

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!